การแถลงข่าวของกลุ่มปฎิรูปพลังงาน นำโดยน.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ ส.ปช. ได้เปิดข้อมูลอ้างอิงแผนที่แสดงสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศไทย ว่า การต่อสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่21 ในจำนวนแปลงที่จะมีการสำรวจ มีส่วนหนึ่งอยู่ในอ่าวไทยซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับพื้นที่พิพาทด้านพลังงานระหว่างไทย กับ กัมพูชา โดยในพื้นที่พิพาทเป็นแหล่งน้ำมันดิบจำนวนมาก แต่แปลงสัมปทานรอบที่21 เว้นส่วนที่เป็นข้อพิพาทไว้ ทำให้ในอนาคตกัมพูชาอาจอ้างได้ว่าไทยยอมรับว่าพื้นที่พิพาทไม่ใช่ของเรา และเว้นไว้ และอาจทำให้ไทยเสียพื้นที่ดังกล่าวให้กับกัมพูชาได้ นอกจากนี้น.ส.รสนา กล่าวว่า การเปิดสัมปทานแหล่งปิโตรเลียม ถือเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ภาครัฐเสียผลประโยชน์ให้กับภาคเอกชน เพราะ ระบบสัมปทานรัฐจะได้รับส่วนแบ่งเมื่อมีการขายปิโตรเลียม แต่หากเปลี่ยนไปใช้ระบบการแบ่งปันผลผลิตจะทำให้รัฐได้ประโยชน์มากกว่า
ด้านน.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค เปิดเผยว่า อยากใหัรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับฟังความคิดเห็นของประชาชนมากกว่านี้ เพราะหากรัฐบาลยังคงไม่ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น เชื่อว่า การชุมนุมเพื่อเรียกร้องของประชาชนอาจกลับมาอีกครั้ง
ส่วนช่วงบ่าย กลุ่มปฏิรูปพลังงานจะมีการหารือกันเพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป อย่างไรก้ตามกลุ่มดังกล่าวถือเป็นอีก1กลุ่มที่ติดตามเรื่องพลังงานอย่างใกลัชิด
บุศรินทร์