จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือ น.พ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงใน 8 จังหวัดภาคเหนือดำเนินการตามข้อสั่งการ ตั้งแต่การเฝ้าระวังสถานการณ์ การแจ้งเตือนประชาชน และให้คำแนะนำสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี พร้อมเยี่ยมบ้านกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชนในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยที่จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลประจำอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้ร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชน จิตอาสา จัดกิจกรรมโครงการ “อสม.เคาะประตูสู้ควันไฟ เพื่อลมหายใจของทุกคน” เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน และกลุ่มเสี่ยงเรื่องการปฏิบัติตัวในภาวะที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตราย พร้อมขอความร่วมมือประชาชนช่วยแก้ไขปัญหา ทั้งจากไฟป่า และขอให้หยุดการเผาป่าและการเผาในที่โล่ง ทีมหมอครอบครัวออกเยี่ยม 4 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงมีครรภ์ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว แจกหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กแก่กลุ่มเสี่ยงแล้วกว่า 60,000ชิ้น รวมทั้งการนำรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นละอองฝอยในพื้นที่ เพื่อลดฝุ่นละออง เพิ่มความชุ่มชื้นในบรรยากาศอีกด้วย
ส่วนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากหมอกควัน มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก และส่งทีมหมอครอบครัว ดูแลผู้ป่วยหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง จัดหาและสนับสนุนหน้ากากอนามัย เพื่อแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 6 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยถุงลมโป่งพอง หอบหืด เบาหวาน หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ทำงานที่โล่งแจ้ง
น.พ.ธงชัย กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อย่าตระหนกจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากอยู่ในพื้นที่สีเหลือง สีส้ม สีแดง ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ไอ ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
....
กระทรวงสาธารณสุข, สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์