อธิบดีกรมชลฯ แถลงแก้ภัยแล้งพื้นที่นอกเขตชลประทานเร่งเสริมรถน้ำ-เครื่องสูบน้ำ

การประชุมคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในประเทศ ยืนยันว่าในพื้นที่เขตชลประทานทั่วประเทศยังมีน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำสำหรับทำการเกษตรเพียงพอ ไม่มีที่ใดจะได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง แม้จะมีการใช้น้ำเกินแผนที่วางไว้ไปถึง 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรก็ตาม โดยปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้ว 24,100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 90 ของน้ำที่ใช้ได้ทั้งหมด และเหลือน้ำใช้การได้ 580 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 7 รับว่าในพื้นที่นอกเขตชลประทานบางพื้นที่เสี่ยงประสบภาวะภัยแล้ง และเฉพาะใน 7 จังหวัดที่อยู่นอกเขตพื้นที่ของการประปาส่วนภูมิภาค เช่น จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดราชบุรี ซึ่งในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งทั้งหมดได้วางแผนการบริหารจัดการไว้รองรับแล้ว เช่น การนำเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำเข้าไปในพื้นที่ เป็นต้น

สำหรับปริมาณน้ำเฉลี่ยรวมทั่วประเทศ ขณะนี้มีปริมาณน้ำร้อยละ 44 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีน้ำน้อยสุดเพียงร้อยละ 24 ถัดมาเป็นภาคเหนือและภาคตะวันออก ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ขณะนี้มีอยู่ 5 แห่งที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่าร้อยละ 30 และมีถึง 18 แห่งที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่าร้อยละ 50 เช่น เขื่อนภูมิพล เป็นต้น ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ได้ฝากให้บริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่างๆให้มีเพียงพอไปถึงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม พร้อมขอให้แก้ปัญหาการจัดการน้ำแบบระยะยาว ที่ประชุมยังกำชับขอให้เกษตรกรอย่าปลูกพืชเพิ่มอีก หลังจากเคยขอความร่วมมือไปบ้างแล้วก็ได้รับความร่วมมือดี

นายทองเปลว กล่าวว่า  ปีนี้ในภาพรวมทุกอย่างดีกว่าปีที่แล้ว ทั้งปริมาณน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคและการทำการเกษตร รวมไปถึงการบริหารจัดการน้ำที่ได้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเข้ามาควบคุมจัดการ ทำให้การปฏิบัติงานรวดเร็วขึ้น

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร