*สรุปข่าว19.35น.*

+++การประชุมคณะกรรมาธิการสามัญประสานงานกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ วิป สปช.ชั่วคราว นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ว่าที่ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงว่า ที่ประชุมมีมติส่งสมาชิก สปช. ร่วมเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 15 คน และอีก 5 คน มาจากการสรรหาบุคคลภายนอก โดยจะนัดประชุมในวันจันทร์ที่  27 ตุลาคม ให้ที่ประชุม สปช. พิจารณาเห็นชอบหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งเมื่อที่ประชุม เห็นชอบแล้ว จะให้แต่ละสาขาทั้ง 11 ด้าน และ 4 ภาค แยกไปประชุม พิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสม สาขาละ1คน  สำหรับคนนอกให้วิป สปช.ไปสรรหา และเสนอชื่อมา จากนั้น จะนัดประชุมลงมติคัดเลือกกันในวันที่ 28 ตุลาคม

+++นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์  รองอัยการสูงสุด  ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการ พิจารณาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง ความคืบหน้ากรณีตั้งคณะทำงานประชุมร่วมกันระหว่าง อัยการกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ในการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ของสำนวนคดี ว่า  ขณะนี้กระบวนการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากสำนวนคดีดังกล่าวยังมีข้อไม่สมบูรณ์ในหลายประเด็น ส่วนกรอบระยะเวลา 14 วันในการพิจารณา เป็นเพียงกรอบระยะเวลาในการเร่งรัดเท่านั้น ซึ่งคงไม่มีผลต่อการพิจารณาคดี และถึงแม้จะเลยกรอบระยะเวลามาแล้วก็ตาม ถ้าหากคณะทำงานร่วมมีความเห็นสั่งฟ้องก็ยังสามารถฟ้องคดีต่อศาลฎีกานักการเมืองได้  ซึ่งคงจะต้องรอติดตามความคืบหน้าในการประชุมครั้งถัดไป  โดยทางคณะทำงานร่วมได้นัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 7 พ.ย.นี้เมื่อถามว่าถ้าหากในการประชุมวันที่ 7 พ.ย. นี้ ยังไม่ได้ข้อยุติ  หาก ป.ป.ช. จะฟ้องคดีเองสามารถทำได้หรือไม่  นายวุฒิพงศ์  กล่าวว่า  ก็เป็นเรื่องของป.ป.ช.  แต่ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ก็สามารถฟ้องคดีเองได้

+++พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม.เข้าพบ ว่า รองผู้ว่าฯ กทม. มารายงานถึงการจัดระเบียบทางเท้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 13 จุด ยังเหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ 9 จุด   และได้พิจารณาถึงผลกระทบที่ผู้ค้าได้รับความเดือดร้อน จึงเห็นควรให้ผ่อนผันเพื่อให้ความช่วยเหลือ  ในเวลากลางคืนจะสามารถให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถขายของได้ แต่ต้องไม่ล้ำลงไปผิวการจราจรและขวางทางสัญจรจนประชาชนได้รับความลำบาก  ส่วนในเวลากลางวัน ให้ใช้ทางเท้าเป็นพื้นที่สำหรับการสัญจรอย่างเต็มที่

+++เรื่องเศรษฐกิจ นายบัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา ว่า สะท้อนชัดเจนจากตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค.ยังไม่ดีขึ้น ทั้งการส่งออก การบริโภค การท่องเที่ยวและสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ คาดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจต้องใช้เวลา เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย ดังนั้น เมื่อปัจจัยต่างประเทศมีข้อจำกัดมากขึ้น และการบริโภคภายในประเทศยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน การดำเนินนโยบายควรเป็นไปอย่างระมัดระวัง ซึ่งรัฐบาลได้เห็นข้อจำกัดในเรื่องนี้ จึงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนดีขึ้น และเป็นการฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งต้องติดตามว่าความเชื่อมั่นจะดีขึ้นตามที่คาดหวังหรือไม่ เนื่องจากอำนาจซื้อภาคครัวเรือนยังมีอยู่จำกัด จากภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

+++หุ้นไทย ปิดตลาดวันนี้ บวก6.58จุด ดัชนีอยู่ที่1,532.72จุด มูลค่าซื้อขาย 37,275.97ล้านบาท นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ซึมตัวลงและแกว่งในกรอบแคบ เมื่อเทียบกับตลาดต่างประเทศที่มีการดีดตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี เนื่องจาก มีปัจจัยกดดันอยู่ จากความกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ภายหลังจากที่อาจจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในเรื่องการส่งออกในปีหน้า

+++นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึง กรณีผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่ากลับคำรับสารภาพอ้างว่าถูกซ้อมให้รับสารภาพ ว่า ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังได้มีการทำประวัติและตรวจสุขภาพแล้วตามขั้นตอนแต่ในรายงานไม่พบว่าผู้ต้องหามีร่องรอยบาดแผล เรือนจำให้ความร่วมมือในการเข้าไปตรวจสอบและเยี่ยมผู้ต้องหา ไม่มีอะไรปิดบัง ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้เรือนจำส่งตัวผู้ต้องหาออกไปเอ็กซเรย์เพื่อหาบาดแผลอย่าง         ละเอียดเพื่อพิสูจน์ว่าถูกซ้อมตามที่ผู้ต้องหาอ้างหรือไม่ การนำตัวผู้ต้องหาออกจากเรือนจำต้องเป็นไปตามคำสั่งศาล ระเบียนเรือนจำไม่อนุญาตให้นำตัวออกไปโดยพลการ

+++สถานการณ์ในต่างประเทศ ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงราว 200 คน เดินขบวนไปยังบ้านพักในทำเนียบรัฐบาลของนายเหลียง ชุนอิง หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง พร้อมทั้งวิจารณ์จุดยืนของเขาเรื่องการปฏิรูปการเมือง นอกจากนั้น ผู้ประท้วงไม่พอใจการแสดงความเห็นของนายเหลียงเมื่อเร็วๆนี้ที่ว่าไม่ควรจะให้คนจนกำหนดทิศทางการเมือง ระบุว่าการเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายประชานิยม กลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ปิดถนนประท้วงมาแล้วกว่า 3 สัปดาห์ รัฐบาล ออกแถลงการณ์ว่า นายเหลียงพร้อมจะพิจารณาข้อเสนอของประชาชนจากทุกภาคส่วนว่ามีความสำคัญเท่าเทียมกัน ไม่ใช่จะพิจารณาแต่เฉพาะความต้องการของคนหมู่มากของสังคมเท่านั้น

+++ตำรวจในเมืองบังกาลอร์ของอินเดีย กล่าวว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนคดีข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงวัย3ขวบคนหนึ่งในโรงเรียนในเมืองบังกาลอร์ ด้วยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีการจับกุมใคร ก่อนหน้านี้พ่อแม่ของเด็กเข้าแจ้งความกับตำรวจ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 3 เดือน หลังจากเด็กหญิงวัย 6 ขวบรายหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนอีกแห่งหนึ่งในเมืองบังกาลอร์ข่มขืน ทำให้บรรดาผู้ปกครองและนักเคลื่อนไหวออกมาประท้วงตามท้องถนน หลายคนกล่าวหาโรงเรียนว่าไม่ดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว การการข่มขืนเด็กหญิงวัย 3 ขวบถือเป็นกรณีการล่วงละเมิดทางเพศครั้งล่าสุด