*การประปานครหลวง ส่งแผนบริหารจัดการน้ำให้กรมชลฯ จัดสรรน้ำให้เพียงพอในช่วงหน้าแล้ง*

22 ตุลาคม 2557, 18:45น.


การลงพื้นที่สำรวจบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก จ. พระนครศรีอยุธยา ของการประปานครหลวงและกรมชลประทาน นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง หรือกปน. เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันภัยแล้งของการประปาว่า ได้ส่งแผนงานความต้องการใช้น้ำดิบให้กรมชลประทานดูแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะเพียงพอต่อการใช้ แต่หากประสบปัญหาฉุกเฉินก็จะประสานงานกับกรมชลประทานให้จัดสรรน้ำจากลุ่มน้ำเจ้าพระยามาให้เพียงพอ และจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็มที่จะผ่านมาตามลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนอันจะส่งผลต่อการผลิตน้ำประปา



ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆถือว่ามีอยู่ในปริมาณน้อยกว่าปกติและเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำใช้ เช่น ในเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์ที่ควรมีปริมาณน้ำใช้การได้ที่ 13,800 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันกลับมีน้ำใช้ได้รวมกันประมาณ 5,000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์เฝ้าระวังภัยแล้งของกปน.ที่อาจส่งผลต่อการผลิตน้ำประปา แต่ก็ยังมั่นใจว่าน้ำที่มีอยู่ของกปน.จะเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในสามจังหวัดที่กปน.รับผิดชอบดูแล ประกอบด้วย กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และนนทบุรีแน่นอน



ส่วนจุดบรรจบของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก ที่อ. ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา นี้เกิดจากน้ำส่วนหนึ่งที่ไหลมาจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท อันเป็นสถานที่สำรวจจุดแรก โดยจุดบรรจบนี้มีอัตราการไหลของน้ำที่ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีความสำคัญคือ แม่น้ำป่าสักจะช่วยลดการรุกล้ำของน้ำเค็มและเพิ่มปริมาณน้ำที่ใช้ในการประปาได้ และการประปา จะใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำไปยังสถานีสูบน้ำดิบสำแลของการประปา ที่จ.ปทุมธานี  เพื่อใช้สำหรับการอุปโภคบริโภคต่อไป โดยปัจจุบันการประปานครหลวงรับน้ำจากกรมชลประทาน มาผลิตน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคกว่า 815 ล้านลูกบาศก์เมตร และรองรับการใช้น้ำของประชาชนในสามจังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่มีความต้องการใช้น้ำวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร



นายธนศักดิ์ ระบุว่า ขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อเพียงพอต่อการใช้ของทุกคนและหากมีปัญหาในการใช้น้ำประปา สามารถโทรแจ้ง 1125 การประปานครหลวงได้ตลอด 24 ชม.



ธีรวัฒน์ 

ข่าวทั้งหมด

X