ในที่สุดแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ใช้สิทธิวีโต้เพื่อยับยั้งมาตรการที่สภาคองเกรสเพิ่งให้การรับรองเมื่อวันพฤหัสบดี ในการยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ – เม็กซิโก ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาเห็นว่าการปกป้องประเทศเป็นหน้าที่สูงสุดที่ต้องกระทำ โดยเขาได้รับการสนับสนุนจากนายเคิร์สเจน นีลเซน รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายวิลเลียม บาร์ อัยการสูงสุด และบรรดาครอบครัวของเหยื่อการก่อเหตุของผู้อพยพลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า ผู้ลักลอบเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายจากพรมแดนติดต่อกับเม็กซิโกก่ออาชญากรรมมากที่สุด รวมทั้งยังลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วย การใช้สิทธิวีโต้ดังกล่าว มีขึ้นเป็นครั้งแรกนับจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง จะส่งผลให้สภาคองเกรสต้องกลับไปลงมติใหม่โดยอาศัยเสียง 2 ใน 3 ของทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อที่จะทำให้การวีโต้ไม่เป็นผล
ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เพื่อโอนเงินงบประมาณ 3,600 ล้านดอลลาร์จากกองทัพมาใช้ก่อสร้างกำแพง หลังจากที่ทราบผลการลงมติในวุฒิสภา ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ทวีตข้อความว่า “วีโต้!” และระบุด้วยว่าการคัดค้านคำสั่งของประธานาธิบดีคือการเปิดชายแดนในขณะที่อาชญากรรม, ยาเสพติด และการค้ามนุษย์ในสหรัฐฯ กำลังเพิ่มความรุนแรงขึ้น
ทีมต่างประเทศ
CR:BBC