จากเหตุเครื่องบินโบอิ้งรุ่น737 แม็กซ์8 ประสบเหตุตก 2 ครั้งในเวลา 5 เดือนบริษัทโบอิ้ง จากสหรัฐฯ ออกประกาศให้ระงับการใช้งานเครื่องบินรุ่นนี้ทั่วโลกรวม 371 ลำ ส่วนสำนักงานการบินสหรัฐฯ หรือเอฟเอเอออกประกาศให้ระงับการใช้งานเครื่องบินโบอิ้ง737 แม็กซ์8 และไม่อนุญาตให้บินในหรือผ่านน่านฟ้าสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว ตามที่พบหลักฐานใหม่ และข้อมูลดาวเทียมที่บ่งชี้ว่าเที่ยวบินทั้ง 2 ลำมีลักษณะการบินและประสบเหตุที่ใกล้เคียงกันมาก
และมีการเปิดเผยรายงานด้วยว่า หลังจากที่เหตุการณ์เครื่องบินของไลอ้อน แอร์ ตกเมื่อเดือนตุลาคมเมื่อปีที่แล้ว มีนักบินของสหรัฐฯอย่างน้อย 4 คน รายงานไว้ในระบบรายงานความปลอดภัยการบิน ซึ่งเก็บรักษาโดยสำนักงานการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา ร้องเรียนเครื่องบินรุ่นนี้ปักส่วนหัวเครื่องลงกะทันหันหลังจากขึ้นจากสนามบิน โดยมี 2 เที่ยวบิน ที่นักบินยกเลิกระบบบินอัตโนมัติเพื่อแก้ไขทิศทางหรือวิถีของเครื่องบินให้ถูกต้องตามแผนการบิน
สายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ เปิดเผยบันทึกการสนทนาของนักบินเที่ยวบินที่เกิดเหตุกับหอบังคับการบินว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมเครื่อง และต้องการกลับมาที่สนามบิน ส่วนการตรวจสอบเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน หรือกล่องดำทั้ง 2 กล่อง ทางสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุการบินเยอรมนี หรือบีเอฟยู ส่งต่อกล่องดำไปตรวจสอบที่สำนักงานความปลอดภัยการบินพลเรือนของฝรั่งเศส หรือ บีอีเอแล้ว
ส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกไม่พอใจทางการเอธิโอเปียที่ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตล่าช้ามาก
ขณะที่แอร์บัสผู้ผลิตเครื่องบินของยุโรปกำลังเร่งเจรจาข้อตกลงซื้อขายเครื่องบินแอร์บัสฉบับใหม่กับเอธิโอเปีย และจีน โดยคาดว่าจะสามารถสรุปข้อตกลงได้ในการที่ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ผู้นำจีนเดินทางเยือนยุโรปปลายเดือนนี้
รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดเป้าหมายที่จะลดการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านลงอีกประมาณร้อยละ 20 ให้เหลือต่ำกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ แต่จะยกเว้นมาตรการลงโทษผู้ซื้อรายใหญ่อย่างจีนและอินเดีย เนื่องจากการกดดันให้ระงับการซื้อน้ำมันอิหร่านโดยสิ้นเชิง จะทำให้ราคาน้ำมันทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น
สหรัฐฯ กลับมาใช้มาตรการลงโทษอิหร่านอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนหลังจากที่ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจ 6 ชาติ ทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลงมาเหลือครึ่งหนึ่ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักรลงมติให้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ไปขอเลื่อนกำหนดเวลาที่สหราชอาณาจักรจะออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป หรือที่เรียกว่าเบร็กซิต หลังจากที่สมาชิกสภาฯ ลงมติปฏิเสธเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องจนมาถึงฉบับสุดท้ายสมาชิกสภาฯ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 413 เสียงต่อ 202 เสียง เพื่อให้นายกรัฐมนตรีไปเจรจากับสหภาพยุโรปเพื่อขอเลื่อนเส้นกำหนดเวลาที่จะออกจากกลุ่มที่กำหนดไว้ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนที่จะมีการลงมติว่า สามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ประมาณ 3 เดือน และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ชาติเสียก่อน
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่าเบร็กซิตกำลังสร้างความแตกแยกในหมู่พลเมืองของสหราชอาณาจักร และเขารู้สึกแปลกใจที่การเจรจาเบร็กซิต ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรปเป็นไปอย่างย่ำแย่ ทั้งกล่าวด้วยว่า เคยให้คำแนะนำแก่นายกรัฐมนตรีเมย์แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ฟังเขา โดยชี้ว่า ปัญหาเกิดจากการที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีจุดยืนของตนเอง ซึ่งทำให้การเจรจาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตามเขาไม่เห็นด้วยหากจะจะให้มีการจัดการลงประชามติเบร็กซิตเป็นครั้งที่ 2
หนังสือพิมพ์ของสเปน รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุคนร้ายบุกรุกและโจรกรรมทรัพย์สินรวมถึงคอมพิวเตอร์จากสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงมาดริด และผลการสอบสวนพบว่าคนร้ายมีจำนวน 10 คน แต่ 2 คนในกลุ่มนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ ของสหรัฐ รัฐบาลสเปนจึงติดต่อไปยังซีไอเอเพื่อขอความชัดเจน แต่ซีไอเอยังไม่มีการชี้แจงใด ๆ
ที่มาเลเซีย มีสถานการณ์ควันพิษจากสารเคมีที่ถูกทิ้งลงในแม่น้ำในรัฐยะโฮร์ ทำให้กระทรวงศึกษาธิการประกาศปิดโรงเรียน 111 แห่งในเมืองพาเซอร์ กูดัง เมืองอุตสาหกรรมของรัฐ เป็นการชั่วคราว หลังจากที่มีประชาชนกว่า 500 คนเข้ารับการรักษาอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ทางกระทรวงสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สาเหตุเกิดจากโรงงานรีไซเคิลยางรถยนต์ผิดกฎหมายในเมืองคูไล ปล่อยสารเคมีอันตรายลงแม่น้ำ ทำให้เกิดควันพิษ ขณะนี้เจ้าของโรงงานถูกจับกุมตัวดำเนินคดีแล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 58.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ 67.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ หุ้นของโบอิ้งยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น โดย ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 7.05 จุด หรือร้อยละ 0.03 ปิดที่ 25,709.94 จุด
เอสแอนด์พี ลดลง 2.44 จุด หรือร้อยละ 0.09 ปิดที่ 2,808.48 จุด
แนสแดค ลดลง 12.49 จุด หรือร้อยละ 0.16 ปิดที่ 7,630.91 จุด
...