นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อตรวจเยี่ยมกิจการและรับฟังความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาที่สำคัญของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ในวันนี้ (14 มี.ค.) โดยมีนายสมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยเข้าร่วม
เรือโทกมลศักดิ์ ได้รายงานผลการดำเนินงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ในปัจจุบันว่า สองเดือนแรกของปีนี้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีรายได้รวม 6,222 ล้านบาท หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือกำไร 2,626 ล้านบาท และนับถึงวันที่ 8 มีนาคม 2562 การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2562 แล้ว 4,295 ล้านบาท จากงบประมาณทั้งสิ้น 11,663 ล้านบาท คาดการณ์ว่าปี 2562 การท่าเรือแห่งประเทศไทย จะมีปริมาณตู้สินค้ารวม 9.837 ทีอียู มีปริมาณสินค้า 110.994 ล้านตัน และมีปริมาณเรือไม่น้อยกว่า 22,308 เที่ยว
ส่วนโครงการพัฒนาที่สำคัญที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินการมีอยู่หลายโครงการ เช่น โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3, โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยให้เป็น Smart Community, การจัดตั้งบริษัทในเครือเพื่อบริหารสินทรัพย์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย คาดว่า จะขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม 2563
ด้านนายสมคิด กล่าวให้กำลังใจผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย และได้เร่งรัดให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเร่งดำเนิน 3 โครงการสำคัญ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3, โครงการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพฯ และโครงการพัฒนาท่าเรือระนอง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 มั่นใจว่า จะได้ผู้ชนะการประมูลในการประมูลรอบที่ 2 นี้แน่นอน และเร็วๆนี้โครงการจะมีความชัดเจนมากขึ้น
ขณะที่ โครงการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ถือเป็นโครงการการพัฒนาครั้งใหญ่ ที่ส่วนตัวให้ความสำคัญและเชื่อว่าถ้าทำได้ก็จะทำให้ประเทศได้ประโยชน์อย่างมาก นายสมคิด ยังได้กำชับด้วยว่า การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวที่มีประชาชนอาศัยอยู่มากจะต้องไม่ทำให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน และต้องให้ชุมชนเติบโตไปพร้อมกับโครงการให้ได้ พร้อมกำชับให้ทุกโครงการควรเร่งก่อสร้างให้เร็วควบคู่ไปกับการหาบริษัทที่ปรึกษาที่ดีมาให้คำปรึกษาในทุกโครงการด้วย ส่วนตัวยังมองว่าการท่าเรือแห่งประเทศไทย สามารถหางบประมาณได้ด้วยตัวเองเพื่อนำมาเป็นทุนในการดำเนินโครงการต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องรองบประมาณจากภาครัฐอย่างเดียว
จากนั้นประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และผู้บริหารได้พารองนายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานในเขตรั้วศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพด้วย
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร