+++พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่การเกษตร เริ่มขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รายงานว่า ปีนี้จะมีปัญหาน้ำแล้งกว่าปีที่ผ่านมา มีการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค ทั้งนอกเขตชลประทานและในเขตชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 2 เรื่องพายุฤดูร้อน ระหว่างวันที่ 14-18 มีนาคม 2562 ภาคเหนือ จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา เนื่องจาก บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ขณะที่ บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
+++สถานการณ์ในภาคใต้ จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ จ.สตูล และจ.พัทลุง เมื่อช่วงวันที่ 10 มี.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันขณะลงพื้นที่ จ.สตูลว่า ตำรวจสตูลและพัทลุง รู้ตัวบุคคลต้องสงสัยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับ หลังพบว่าเป็นกลุ่มคนก่อเหตุที่เชื่อมโยงกัน โดยรูปแบบ พฤติการณ์ มีลักษณะคล้ายกับการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. แสดงภาพบุคคลต้องสงสัยไม่ต่ำกว่า 2 คน นำรถจักรยานยนต์เดินทางมาจากอ.รัตภูมิ จ.สงขลา ที่เชื่อว่าเข้ามาก่อเหตุ ในอ.เมืองสตูล เหตุระเบิดที่จ.พัทลุง ตำรวจยังคงระดมกำลังเร่งแกะรอยภาพวงจรปิดในพื้นที่ อ.ปากพะยูน และ อ.รัตภูมิ อ.ควนเนียง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา หลังจากที่พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยขับกระบะ นำหน้ารถจักรยานยนต์ในเส้นทางจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ผ่านถนนสายรอง มุ่งหน้า อ.ปากพะยูน ก่อนออกตระเวนก่อเหตุวางระเบิดหลายจุดในอ.ปากพะยูน และเขตเทศบาลเมืองพัทลุง
+++ความเคลื่อนไหวตลาดน้ำมันในต่างประเทศ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 8 เซ็นต์ ปิดที่ 56.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 9 เซ็นต์ ปิดที่ 66.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โอเปกส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าลดกำลังการผลิตต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่เวเนซุเอลา กำลังเผชิญวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน ดาวโจนส์ ลดลง 96.22 จุด ปิดที่ 25,554.66 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 8.22 จุด ปิดที่ 2,791.52 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 32.97 จุด ปิดที่ 7,591.03 จุด ดาวโจนส์ ปิดร่วงจากปัญหาโบอิ้งทำให้หุ้นร่วงลง เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกออกมาตรการทั้งสั่งงดบินและห้ามบินผ่านน่านฟ้าหลังเกิดอุบัติเหตุเลวร้ายในเอธิโอเปีย เมื่อวันอาทิตย์ ทำให้หุ้นของโบอิ้งร่วงลงถึงร้อยละ 6.1 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเพิกเฉยต่อความเคลื่อนไหวของรัฐสภาสหราชอาณาจักร ที่ปฏิเสธข้อตกลงเบร็กซิตของนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ เป็นรอบที่ 2
+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ว่า มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หรืออยู่ที่ 82.0 จาก 80.7 จากเดือนมกราคม 2562 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากบรรยากาศการเลือกตั้งที่คึกคัก และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แต่ดัชนีทุกรายการยังต่ำกว่า 100 แสดงว่าประชาชนยังมองว่าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นเป็นระดับปกติ ซึ่งทำให้ประชาชนยังใช้ความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย ปัจจัยบวกคือบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งคึกคักทั่วประเทศ คาดว่า เมื่อรวมทั้งเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมจะมีเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมรณรงค์หาเสียงทั่วประเทศราว 3-5 หมื่นล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ไตรมาส 4/2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ขยายตัวจากร้อยละ 3.2 ในไตรมาสก่อนหน้า แม้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตลอดจนบรรยากาศการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่คึกคักจะช่วยให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเสี่ยงสูงจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และกรณีที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือการทำเบร็กซิต กรณีเบร็กซิต ยังมองไม่เห็นความชัดเจนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหากสุดท้ายผลสรุปออกมาว่าสหราชอาณาจักรต้องออกจากยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง ก็จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย รวมทั้งกระทบต่อนักท่องเที่ยวยุโรปที่จะเดินทางมาไทยในช่วงไตรมาส 2-3 ของปีนี้ ซึ่งอาจทำให้การส่งออกของไทยปีนี้เหลือเพียงร้อยละ 3-4 ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ประมาณร้อยละ 4-5
+++คดีอาชญากรรม วันนี้ สภ.บางเสาธง จะแถลงเรื่องความคืบหน้าคดีกลุ่มคนร้ายลวงนายชัยประสิทธิ์ บุญเลิศ อายุ 34 ปี พนักงานคลังสินค้าสถานีส่งน้ำสุวรรณภูมิ มาฆ่าฝังดิน โดยคนร้ายคือนายสมศักดิ์ หรือโอ เล็ดลอด พร้อมพวกอีก 6 คน ก่อเหตุแชตลวงนายชัยประสิทธิ์ มาฆ่าอย่างโหดเหี้ยมแล้วนำศพไปฝังดินในที่รกร้าง หมู่ 3 ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยพ่อและภรรยาผู้เสียชีวิตไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ว่า นายชัยประสิทธิ์ หายตัวไปตั้งแต่วันที่18 ก.พ.ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด นายสมศักดิ์ ถูกตำรวจวิสามัญ หลังจากที่ไล่ติดตามตัวมาจากพื้นที่ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ก่อนจะเดินทางเข้าพื้นที่จ. อุบลราชธานี จนเข้ามาในพื้นที่จ.ยโสธร โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน จากอ.เขื่องใน เนื่องจาก รถยนต์ของคนร้ายน้ำมันหมด จากนั้นได้ขี่หลบหนีมาได้สักพัก ก็ได้ใช้อาวุธปืนจี้รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า ทะเบียน บล 708 อุบลราชธานี เพื่อหลบหนีต่อจนรถมาติดไฟแดงบริเวณกลางอำเภอคำเขื่อนแก้ว คนร้ายจึงจี้ชิงรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน ฒฎ 5712 กรุงเทพมหานคร ที่จอดติดไฟแดงอยู่ พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ชุดจับกุมได้เข้าปิดล้อมรถ คนร้ายเห็นจวนตัวจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนเปิดฉากยิงต่อสู้เพื่อเปิดทางหนี ชุดสืบสวนจึงจำเป็นต้องยิงโต้ตอบ เพื่อหยุดยั้งคนร้าย ไม่ให้ไปก่อเหตุกับประชาชนที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้คนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คดีฆ่าอำพรางซ่อนเร้นศพนายชัยประสิทธิ์ เกิดขึ้นจากที่แฟนเก่าผู้เสียชีวิต มอบตัวรับเป็นนกต่อลวงผู้เสียชีวิตให้นายสมศักดิ์ แฟนใหม่ที่เป็นเอเยนต์ยาเสพติดใน จ.สมุทรปราการ พร้อมพวก ทำร้ายจนเสียชีวิตและนำศพใส่รถไปฝังดิน
+++วันนี้ ตำรวจควบคุมตัวนายอั๋น ฟักศิริ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาทำร้ายและฆ่านางศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ อายุ 48 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หลังจากที่เมื่อวานนี้มีการแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ