ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30 น.วันที่ 13 มีนาคม 2562

13 มีนาคม 2562, 05:40น.


+++รัฐสภาสหราชอาณาจักร ปฏิเสธข้อตกลงเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรืออียู หรือการทำเบร็กซิตที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเป็นครั้งที่สอง ด้วยคะแนน 391ต่อ 242 เสียง เป็นการพิจารณาก่อนที่ในวันที่ 21 มี.ค.สภายุโรป จะเข้าร่วมการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์เป็นครั้งสุดท้าย และเป็นการพิจารณาก่อนถึงวันเบร็กซิต คือ 29 มี.ค. ที่สหราชอาณาจักรต้องออกจากอียู  ทั้งนี้ สมาชิกสภา ได้ออกเสียงคว่ำข้อตกลงฉบับแรกไปแล้วเมื่อเดือนม.ค. และเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงข้อตกลง ทำให้นายกรัฐมนตรีเมย์ ต้องกลับไปเจรจากับอียูอีกครั้ง แต่ไม่สามารถแก้ไขข้อตกลงหลายประเด็นได้ เมื่อรัฐสภาคว่ำข้อตกลงเบร็กซิต อีกครั้ง  รัฐสภาก็จะลงมติในวันพุธว่าจะเห็นชอบต่อการที่ออกจากกลุ่มโดยไม่มีข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบอีก ก็จะมีการลงมติในวันพฤหัสบดีว่าจะเรียกร้องให้อียู ขยายกำหนดเวลาการออกจากกลุ่มในวันที่ 29 มี.ค.นี้ ออกไปหรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติเรียกร้องให้อียูขยายกำหนดเวลาออกไป รัฐบาลก็จะเจรจากับอียู แต่หากรัฐสภามีมติไม่เรียกร้องให้อียูขยายกำหนดเวลาออกไป สหราชอาณาจักร ก็จะออกจากกลุ่มอย่างเป็นทางการตามกำหนดเดิมคือ 29 มี.ค.หากสหราชอาณาจักรออกจากอียู โดยไม่มีข้อตกลง สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า สินค้าและบริการที่นำเข้าจากยุโรปทุกประเทศจะต้องเสียภาษีนำเข้า ทำให้สินค้าและบริการมีราคาแพง ขณะที่ สินค้าจากสหราชอาณาจักรส่งไปขายในอียูก็ต้องเสียภาษีนำเข้าเช่นกัน ทำให้สินค้าของสหราชอาณาจักรมีราคาแพงขึ้น  ขณะที่การเดินทางข้ามแดนที่เคยทำแบบเสรี เมื่อออกจากอียูก็ต้องมีการตั้งด่านทั้งด่านตรวจคนเข้าเมือง และด่านศุลกากร 



+++ปฎิกิริยาที่เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ของเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ ประสบเหตุตก หลังขึ้นบินจากสนามบินเพียงไม่กี่นาทีเพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงไนโรบี ของเคนยา ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 157 คนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินรุ่นนี้ของไลอ้อน แอร์ ดิ่งทะเลชวานอกชายฝั่งอินโดนีเซียเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ส่งผลให้ผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้งหมด 189 คนเสียชีวิต หลายประเทศทั่วโลก สั่งระงับการใช้เครื่องบินรุ่นดังกล่าว จนกว่าจะมีการยืนยันเรื่องความปลอดภัย ล่าสุดมีหลายประเทศที่ออกแถลงการณ์เพิ่มเติม ทั้งอังกฤษ,เยอรมนี,ฝรั่งเศส,เนเธอร์แลนด์,เบลเยียม ไอร์แลนด์ รวมถึงออสเตรเลีย ที่ห้ามเครื่องบิน 737 แม็กซ์ของโบอิ้ง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติสหรัฐฯ บินผ่านน่านฟ้าของประเทศ นอกจากการห้ามบินผ่านน่านฟ้าแล้ว ยังมีอีกหลายชาติทั่วโลกที่สั่งระงับการใช้เครื่องบินรุ่นนี้ รวมถึงเกาหลีใต้, สิงคโปร์, จีน อินโดนีเซีย โอมาน มาเลเซียและอินเดีย



+++สถานการณ์ในเวเนซุเอลา นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะถอนนักการทูตทั้งหมดที่เหลืออยู่ในเวเนซุเอลา ภายในสัปดาห์นี้ หรือ ประมาณ 72 ชั่วโมง การตัดสินใจดังกล่าวยิ่งตอกย้ำสถานการณ์ในเวเนซุเอลาที่เลวร้ายมากขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนนายฮวน กุยโด  ผู้นำฝ่ายค้านและประธานสมัชชาแห่งชาติ ประกาศตัวเป็นผู้นำรักษาการที่ชอบธรรมของเวเนซุเอลา ขณะที่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐฯ ทันที วเนซุเอลามีปัญหาด้านเศรษฐกิจแทบทุกด้านมาตั้งแต่ปี 2558 ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพชีวิตของประชาชนและวิกฤติเศรษฐกิจ จำนวนผู้อพยพทางเศรษฐกิจจากเวเนซุเอลาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน มีแนวโน้มเพิ่มเป็นมากกว่า 5 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ล่าสุดระบบโครงข่ายไฟฟ้าของเวเนซุเอลา ที่ประสบปัญหามานานหลายปี จากการขาดเงินทุนและไม่มีการบำรุงรักษา ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้เกิดไฟฟ้าดับส่งผลกระทบเสียหายจำนวนมาก



+++แถลงการณ์ของรัฐบาลเวียดนาม ระบุว่า นายฝ่าม บินห์ มินห์ รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้หารือทางโทรศัพท์กับนายไซฟุดดิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย เพื่อขอให้ทางการมาเลเซีย พิจารณาคดีอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม รวมถึงปล่อยตัวพลเมืองของเวียดนามชื่อ น.ส.โดอัน ธิ เฮือง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมนายคิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือที่ถูกวางยาพิษด้วยสารพิษวีเอ็กซ์ ที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนก.พ.2560 บทลงโทษสูงสุดคือประหารชีวิต แต่ผู้ต้องสงสัยอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซียชื่อ น.ส.สิตี อาซิยาห์ เพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวตามคำสั่งของศาลมาเลเซีย ที่ถอนฟ้องเธอไปเมื่อวันจันทร์ ศาลมาเลเซีย นัดรับฟังการพิจารณาคดีอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 14 มี.ค.นี้ ทนายความของจำเลย แก้ต่างให้ว่าหญิงสาวผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนคือเบี้ยตัวหนึ่งของแผนลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดในแผนการลอบสังหารดังกล่าวคือสายลับของเกาหลีเหนือ



+++บีบีซี รายงานว่า นายฮาคีม อัลอาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ได้รับสัญชาติออสเตรเลียแล้ว นายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย จัดพิธีมอบสัญชาติให้กับนายฮาคีม พร้อมผู้อพยพอื่นๆอีก 200 คน ในเมืองเมลเบิร์น หลังผ่านการทดสอบภาคทฤษฏีนายฮาคีม ถูกรัฐบาลบาห์เรน กล่าวหาว่าบุกเผาสถานีตำรวจแห่งหนึ่งของบาห์เรนระหว่างการประท้วงต่อต้านผู้นำเผด็จการในโลกอาหรับเมื่อปี 2554  เขาหลบหนีจากบาห์เรน ในปี 2557และได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยทางการเมืองในออสเตรเลีย โดยนายฮาคีม เล่นฟุตบอลให้กับสโมสรพาสโค เวล สโมสรฟุตบอลกึ่งอาชีพในเมืองเมลเบิร์น และได้เดินทางมาฉลองงานแต่งงานที่ประเทศไทยและถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตามหมายแดงของตำรวจสากลที่ถูกส่งจากออสเตรเลียในระหว่างที่นายฮาคีมกำลังเดินทางได้เกือบ 6 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยุติลงด้วยดี ภายหลังรัฐบาลบาห์เรนไม่ติดใจขอตัวนายฮาคีมไปจากประเทศไทย เพื่อดำเนินคดีอาญาตามหมายจับของบาห์เรน และอัยการสำนักงานต่างประเทศของไทย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอถอนฟ้อง นายฮาคีมจึงเดินทางกลับออสเตรเลีย



+++นายมูฮัมหมัด อิกบัล โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชายผู้ต้องสงสัยหนึ่งคนว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรงที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองซิโบลกาจังหวัดนอร์ธ สุมาตรา บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย แต่ 30 นาทีต่อมาได้เกิดระเบิดขึ้นในบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่ ตำรวจยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุ ทำให้ตำรวจ 1 คนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจได้เจรจาต่อรองกับคนร้ายให้ยอมมอบตัวเพราะในบ้านที่เกิดเหตุ มีลูกและภรรยาของคนร้ายอยู่ในบ้านด้วย ชายผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมอาจเกี่ยวข้องกับสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงอีกคนหนึ่งที่ถูกจับกุมไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วทางตอนใต้ของเกาะสุมาตรา เชื่อว่าพวกเขาวางแผนที่จะโจมตีด้วยการวางระเบิดสำนักงานตำรวจที่เมืองลัมปุง เมื่อปีที่แล้ว ตำรวจเป็นเป้าหมายหนึ่งของการก่อเหตุร้าย เช่น ระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีกองบัญชาการตำรวจในจังหวัดอีสต์ ชวา และคนร้ายใช้มีดเป็นอาวุธโจมตีที่กองบัญชาการตำรวจเมืองจัมบี



CR:CNN



 

ข่าวทั้งหมด

X