การดำเนินคดีคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.ศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ พยาบาลโรงพยาบาลภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ตำรวจสามารถจับกุม นายอั๋น หรือน๊อต ฟักศิริ ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุได้ที่วัดลาดชิด อำเภอผักไห่ ควบคุมตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอภาชี
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค และชุดทำงานต้องเปลี่ยนแผนการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากเดิมที่กำหนดไว้ 4 จุด คือ หน้าโรงพยาบาล จุดทิ้งรถ จุดลงมือก่อเหตุ จุดทิ้งคัตเตอร์ เนื่องจากมีประชาชนมารอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวนมาก โดยเปลี่ยนมาเป็นการจำลองเหตุการณ์ที่ด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอภาชีแทน
โดยเริ่มจากการที่นายอั๋นขึ้นรถโตโยต้าสีขาวของผู้ตาย แล้วขับออกไปจากโรงพยาบาล ระหว่างทางได้ขอยืมเงินจำนวน 10,000 บาทเพื่อไปผ่อนรถ แต่ผู้ตายปฏิเสธและด่าทอบุพพการีจึงบันดาลโทสะ คว้ามีดคัตเตอร์ที่ติดตัวอยู่เป็นประจำขึ้นมาปาดคอ 3 ครั้ง จากนั้นก็ลงมือบีบคอและกดใบหน้าผู้ตายลงกับเบาะที่นั่ง ทำให้ผู้ตายเสียชีวิต จากนั้นขับรถมาจอดทิ้งไว้ตรงข้ามหน้าโรงพยาบาล และขึ้นรถกระบะของตนเองที่จอดไว้หน้าโรงพยาบาลกลับบ้านไป แต่เมื่อถึงบ้านก็ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับมาเก็บมีด คัตเตอร์และกล้องหน้ารถ ไปทิ้งที่สวนมะนาวทางเข้าซอยวัดวิมลสุนทร กับเอาสร้อยทองและแหวนทองของผู้ตายไปขายด้วย
ภายหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น ผู้ต้องหาได้ร้องไห้ ขณะที่แม่และน้าของผู้ตายที่เดินทางมาถึงได้เข้าไปผลักผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น เจ้าหน้าที่จึงรีบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นไปชั้น 2 ทันที
นางธนวรรณ สุวรรณศิลป์ แม่ของผู้ตาย บอกว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัวเป็นคนที่มีจิตใจดี ที่ผ่านมาก็คอยช่วยเหลือผู้อื่นมาโดยตลอด รวมทั้งผู้ต้องหาด้วย ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ ยืนยันว่าครอบครัวจะไม่ยกโทษให้ แม้ว่าผู้ต้องหาจะมาขอขมาก็ตาม
ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ และพล.ต.ท.อำพล ยืนยันว่า ผู้ตายและผู้ต้องหาไม่ได้มีการนัดหมายกันมาก่อน ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาตั้งใจมาขอยืมเงินเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล แต่ไม่มีให้ จากนั้นเห็นรถผู้ตายจอดอยู่และเห็นว่าเคยขอยืมเงินได้หลายครั้งแล้ว จึงนั่งรอจนผู้ตายเลิกงานและขับรถออกมา ผู้ต้องหาจึงได้ขึ้นรถและขอยืมเงิน แต่ผู้ตายปฏิเสธ จึงลงมือก่อเหตุ โดยในประเด็นความสัมพันธ์นั้น ผู้ต้องหาไม่ได้ให้การในประเด็นนี้ ยืนยันว่าเป็นเพียงคนที่เคยขอยืมเงินเท่านั้น ส่วนของกลางคือกล้องหน้ารถและมีดคัตเตอร์ ขณะนี้ยังหาไม่พบ
จากนั้น ผู้ต้องหาได้กราบขอโทษผู้อำนวยการโรงพยาบาลในฐานะผู้บังคับบัญชาผู้ตายด้วยความสำนึกผิด
นายแพทย์ฐาปกรณ์ จิตตนูนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภาชี ยืนยันว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้ตายและอดีตผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา มูลเหตุในครั้งนี้ไม่มีเรื่องชู้สาว เนื่องจากบุคลากรทุกคนในโรงพยาบาลจะสนิทกัน หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจะต้องมีคนรับรู้
ปกติแล้วผู้ตายเป็นคนจิตใจดี คอยช่วยเหลือผู้อื่นมาตลอด จึงอยากออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของลูกน้อง ไม่ให้เสื่อมเสีย และทราบว่าผู้ต้องหามักจะมาขอยืมเงินเพื่อนร่วมงานบ่อยครั้ง เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็สะเทือนใจและเสียใจที่สูญเสียบุคลากรที่ดีและมีคุณภาพไป
โดยวันพรุ่งนี้ ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาฝากขังต่อไป โดยท้ายคำร้องจะมีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นเหตุสะเทือนขวัญ
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ