รมช.คมนาคม เร่งรัดกทพ.สร้างทางพิเศษรอบนอก ตั้งเป้าเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำภายใน 1 ปี

การตรวจราชการและติดตามการดำเนินงานของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ของนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง  นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย รายงานว่า ผลการดำเนินงานปัจจุบันของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในปัจจุบันการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีทางพิเศษรวม 8 เส้นทาง ระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตร รายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 73,000,000 บาทเศษ จากการผ่านทางพิเศษของรถประเภทต่างๆรวมมากกว่า 1,900,000 เที่ยวต่อวัน โดยร้อยละ 40 ของรถที่ผ่านทาง หรือมากกว่า 734,000 เที่ยวต่อวันเป็นรถที่ใช้ Easy pass และหลังจากที่มีการลดค่าผ่านทางพิเศษบางเส้นทางให้กับผู้ที่ใช้ Easy pass ก็พบว่าการใช้ Easy pass เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 อนาคตจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาให้มีตู้เติมเงินอัตโนมัติเพื่อให้เกิดความสะดวกกับผู้ผ่านทาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ

ด้านนายไพรินทร์ ได้เร่งรัดให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเร่งลงทุนก่อสร้างในโครงการต่างๆเช่น การก่อสร้างโครงการทางพิเศษพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯด้านตะวันตก ซึ่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยชี้แจงว่า ได้เปิดซองประมูลที่มีผู้ยื่นแล้ว 5 ราย คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมปีนี้ จะได้ผู้รับจ้าง และเริ่มก่อสร้างได้เดือนถัดไป นอกจากนี้ก็ยังมีการก่อสร้างโครงการทางพิเศษขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ที่ขณะนี้กำลังรอผลการศึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ รวมถึงโครงการทางพิเศษภูเก็ต สายกะทู้-ป่าตอง ที่กำลังจะหาผู้รับจ้างต่อไป

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังให้แนวโน้มการเติบโตของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยว่ามี 3 แนวทาง ประกอบด้วย แนวทางความยั่งยืนรับผิดชอบต่อสังคม, แนวทางการเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีคุณภาพ และแนวทางการเติบโตทางด้านธุรกิจ ซึ่งก็ได้สั่งให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไปพิจารณาว่าจะเลือกแนวทางใด ส่วนตัวต้องการให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยพัฒนาเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำให้ได้ภายใน 1 ปีนับจากนี้ ซึ่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยก็รับมาพิจารณา และจะพยายามมุ่งพัฒนาไปสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำให้ได้ไม่เกิน 2 ปี

ผู้สื่อข่าว ปิยะธิดา เพชรดี