การบริหารจัดการน้ำในจังหวัดสกลนคร นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยว่า จังหวัดสกลนคร ได้เพิ่มประสิทธิการบริหารจัดการน้ำ โดยมีการดำเนินโครงการหลายแห่ง ซึ่งโครงการประตูระบายน้ำพุง-น้ำก่ำ ถือเป็น1ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ขณะนี้เริ่มก่อสร้างและจัดหาที่ดินที่จะดำเนินโครงการและอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างและจ่ายเงินชดเชยสถานการณ์น้ำในขณะนี้ จากการประเมินกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า จังหวัดสกลนครยังไม่เข้าขั้นวิกฤตเรื่องภัยแล้ง เนื่องจาก 1-2 ปี มีปริมาณน้ำค่อนข้างมากและมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 3 แห่ง รวมปริมาณน้ำกว่า 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ไม่มีผลทำให้เกิดภัยแล้งได้ ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ขนาดเล็ก ที่มีปริมาณน้ำร้อยละ 48 มั่นใจว่า จะสามารถส่งน้ำให้กับการอุปโภคบริโภคและการเกษตรได้ ส่วนพื้นที่ที่ปลูกพืชเกินกว่าแผนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนไม่มากนัก รัฐบาลได้มอบหมายให้เข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรแล้ว พื้นที่ใดยังไม่เพาะปลูก ให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการปลูก เพราะขณะนี้พยายามจัดสรรน้ำให้พื้นที่ที่เพาะปลูกไปแล้ว ให้ยังคงปลูกต่อและสามารถเก็บเกี่ยวได้ ขณะที่การอุปโภคบริโภคในบางพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดภัยแล้งใน 2-3 เดือนข้างหน้า และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม แต่เพื่อความไม่ประมาทระหว่างนี้จะต้องเตรียมความพร้อมเรื่องน้ำที่อาจจะขาดแคลนได้ ซึ่งได้ให้ข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ว่า มีแหล่งน้ำจุดใดบ้าง ที่สามารถลำเลียงน้ำเข้าสู่พื้นที่ที่มีปัญหา
ส่วนการปลูกข้าวนาปรัง นายสมเกียรติ กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า กว่า1,000,000ไร่มีการปลูกข้าวนาปรังมากกว่าแผน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบ้างเล็กน้อย ซึ่งได้วางมาตรการและแจ้งทางจังหวัดต่างๆ ให้ใช้น้ำแบบประหยัดในพื้นที่เขตชลประทาน เพื่อป้องกันการใช้น้ำมากเกินไป และไม่ให้เพาะปลูกเพิ่ม จะต้องสงวนน้ำไว้ใน2เดือนข้างหน้าและเหลือให้ทำการเกษตรในช่วงต้นฤดูฝน ขณะเดียวกัน นอกเขตชลประทานก็จะต้องเข้าไปดูแลเช่นเดียวกัน เพราะหลังจากนี้อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น จะเกิดการระเหย จากสถิติที่ผ่านมา น้ำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะสูญเสียไปกว่า 50,000,000 ลูกบาศก์เมตร จึงต้องช่วยกันประหยัดน้ำ
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ