มติเอกฉันท์ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี

องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าการเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เล็งเห็นได้ว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปและทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์มีส่วนเกี่ยวพันทางการเมือง ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักการปกครองที่พระมหากษัตริย์ทรงราชย์ และถือเป็นการทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยให้เสื่อมทรามลงไป การกระทำของพรรคการเมืองต้องตระหนักว่าต้องไม่มีผลย้อนกลับมาทำลายการปกครองพื้นฐานที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งหาควรปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไม่ มีมติยุบพรรคเอกฉันท์

องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังวินิจฉัยต่อว่า ผู้ถูกร้องต้องทราบดีว่าทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และต้องทราบว่าการนำพระนามมาใช้ถือเป็นการหวังผลทางการเมือง โดยไม่ได้คำนึงถึงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทั้งยังเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จึงมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และมีมติ 6 ต่อ 3 ให้กรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิ์การสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี นับแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 หรือวันที่พรรคเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เนื่องจากพิจารณาว่าการกระทำยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นมีการกระทำปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกรรมการบริหารพรรคยังมีสำนึกจากการที่น้อมรับพระราชโองการในคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 และมีมติเอกฉันท์ให้ไม่สามารถจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562

ผู้สื่อข่าว :ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร