ความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ต้องหาชิงรถขนเงิน พลตำรวจตรีอิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล กล่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาฐานร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน ซึ่งข้อกล่าวหานี้ไม่สามารถยึดทรัพย์ได้ จะต้องประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พิสูจน์ทรัพย์ว่ามีการได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งได้ประสานพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่ ให้ตรวจสอบรายละเอียด ที่มา ที่ไป ของทรัพย์สินทั้งหมด เช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินอื่น ๆ ของนายทักษ์ดนัย เหนี่ยวรั้งใจ ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจวิสามัญเมื่อวานนี้ รวมถึงนายจิรายุส สวนมิ ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกจับด้วย ยืนยันว่า ตำรวจจะให้ความเป็นธรรม หลังจาก การตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินแล้วจะรายงานผลไปยังปปง. เพื่อพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่
สำหรับขั้นตอนตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ที่กระทำความผิดกฏหมายอาญา หากจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า ได้มาจากการกระทำความผิดและนำไปฟอกเงินด้วยวิธีการต่างๆนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะต้องรายงานพฤติกรรมและชี้แจงรายการทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาและเครือญาติว่าได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ผ่านคณะกรรมการธุรกรรมของปปง.พิจารณาว่าเข้าข่ายหรือไม่ ก่อนแจ้งกลับไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อให้ตั้งข้อกล่าวหาฐานฟอกเงินภายหลังได้
ส่วนกรณีที่นางสุพัตรา เหนี่ยวรั้งใจ มารดาของนายทักษ์ดนัย มองว่า การที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมลูกชายเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
พันตำรวจเอกนภดล กาญจนพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหนองค้างพลู ยืนยันว่า ตำรวจทำตามขั้นตอน หลังจากนี้จะเรียกนางสุพัตรา มาสอบปากคำเพิ่มเติมและตรวจสอบทรัพย์สินย้อนหลัง เนื่องจาก เมื่อปี 2560 นายทักษ์ดนัย เคยก่อเหตุในลักษณะนี้ที่เซ็นทรัลเวสเกต ได้เงินไปกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งตำรวจ สภ.บางใหญ่ และ สน.หนองค้างพลู มีการประสานการทำงานร่วมกันในเรื่องนี้
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ