จากเหตุคนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนจี้รถขนเงินของบริษัทเอกชน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายจิรายุส สวนมิ หนึ่งในผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าเคยก่อเหตุมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายปี 2560 ทำให้ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้ง 2 คดีต่อเนื่องกัน เสร็จแล้วจึงควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่งชัน ฝากขังผัดแรก
การทำแผนฯ ในวันนี้เริ่มจากคดีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ในพื้นที่ สน.หนองค้างพลู นายจิรายุสร่วมก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงิน 7,200,000 บาท จากรถขนเงินบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งบริเวณห้างสรรพสินค้าย่านเพชรเกษม เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปทำแผนฯ รวม 7 จุดคือที่ห้างสรรพสินค้า จุดโยนถุงเงินทิ้งชั่วคราว จุดที่เปลี่ยนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมาเป็นรถกระบะเพื่อวนกลับมาหยิบถุงเงินในจุดเดิม จุดทิ้งปืนบริเวณคลองทวีวัฒนา จุดทิ้งเสื้อผ้าบริเวณวัดหลักสาม และจุดพักเงินทั้ง 2 จุด
หลังจากนั้นจึงเป็นคดีของปี 2560 ในพื้นที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งได้เงินไปร่วม 6,000,000 บาท ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ รับตัวไปสอบปากคำ โดยมีพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี และพ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง ผกก.สภ.บางใหญ่ ร่วมกันสอบปากคำเบื้องต้น เสร็จแล้วนำตัวไปทำแผนฯ ที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ
ด้านผู้ต้องหาซึ่งมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ยอมรับว่าร่วมก่อเหตุจริง โดยเป็นผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาลงมือก่อเหตุ ที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะต้องการมีเงินไว้ใช้ เนื่องจากฐานะทางบ้านไม่ร่ำรวย โดยในการก่อเหตุครั้งแรกเมื่อปี 2560 ได้ส่วนแบ่งมาประมาณ 1,000,000 บาท และนำเงินไปใช้จ่ายชีวิตประจำวัน ส่วนคดีที่สองที่เพิ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ติดตามเงินมาได้แล้ว 3,600,000 บาท และกำลังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมนายทักษ์ดนัย เหนี่ยวรั้งใจ ผู้ร่วมก่อเหตุทั้งสองคดีที่ยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่
...
ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร