+++ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อายุ 77 ปี อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เดินทางมาฟังผลการพิจารณาคดี ในฐานะจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบหรือทุจริต หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา มีรายงานว่า นายยงยุทธ ขอยื่นประกันตัวในวงเงินประมาณ 9 แสนบาท
+++การสอบปากคำนายจิรายุส สวนมิ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน 1ในคนร้ายที่ปล้นรถขนเงินบริษัท BRINKS และชิงเงินสด 7,270,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไปบริเวณห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า สาขาเพชรเกษม2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาสอบปากคำและเปิดเผยว่า นายจิรายุส ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับนายทักษดนัย เหนี่ยวรั้งใจ อายุ 27 ปี ก่อเหตุชิงทรัพย์รถขนเงิน ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน ได้ขับรถวนเข้ามาดูลาดเลา จนพบว่าในช่วงเวลา 18.00-20.00 น.พนักงานของบริษัทรักษาความปลอดภัย จะนำรถมาจอดที่หน้าห้างสรรพสินค้า และขึ้นไปเบิกเงิน ก่อนนำถุงเงินขึ้นรถขนเงิน จึงสบโอกาสก่อนร่วมกันวางแผนก่อเหตุแล้วนำรถจักรยานยนต์ไปฉีดพ่นอำพรางสี จากนั้นนำเงินมาแบ่งกันใช้ ถูกตั้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธฯ, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง
ในช่วงที่เจ้าหน้าที่สอบปากคำ แม่ของผู้ต้องหาเดินทางมาเยี่ยมลูกชาย อยากให้ลูกยอมรับผิด โทษจะได้เบาลง จากนั้นเมื่อผู้เป็นแม่ได้เจอหน้านายจิรายุส ก็สวมกอดร้องไห้ ผู้ต้องหาสะเทือนใจที่ทำให้แม่เสียใจ จึงยอมให้การรับสารภาพ
นอกจากนี้ ผบ.ตร.กำชับให้ตามจับนายทักษ์ดนัย ผู้ต้องหาอีกคนที่หลบหนีให้ได้ นายทักษ์ดนัย เคยเป็นพนักงานขับรถให้กับบริษัท BRINKS ก่อนถูกปลดพ้น เนื่องจาก ขาดงานบ่อย แต่แอบปั๊มลูกกุญแจสำรองของรถขนเงินเอาไว้ ประกอบกับมีความโกรธแค้นที่ถูกไล่ออก จึงขโมยเงินจากรถขนเงินเมื่อปี 2560 จนรู้ลู่ทางในการเดินรถขนเงินเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจชักชวนนายจิรายุส มาร่วมกันก่อเหตุ
+++สถานการณ์ในต่างประเทศ สำนักข่าวเอพี ตั้งข้อสังเกตว่า สื่อเกาหลีเหนือ รายงานข่าวการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ของนายคิม จองอึน ผู้นำประเทศกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯในทิศทางเดียวกันหมด ด้วยการเชิดชูผู้นำ แต่ไม่แตะเรื่องเนื้อหาการประชุมซัมมิต เอพี ระบุว่า ภาพของนายคิม ปรากฏในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์โรดองซินมุนของพรรคแรงงาน ขณะที่ การเดินทางของนายคิม ก็เป็นข่าวในสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศ ชาวเกาหลีเหนือ ส่วนใหญ่ขอให้ผู้นำเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ และยกย่องเขาว่าเป็นแรงบันดาลใจให้ขยันขันแข็งเพื่อประเทศชาติ
สื่อเกาหลีเหนือ แทบไม่รายงานเรื่องเนื้อหาที่ผู้นำเกาหลีเหนือและสหรัฐฯจะหารือกันที่กรุงฮานอยของเวียดนาม โดยเฉพาะไม่พูดเรื่องการปลดนิวเคลียร์หรือเรื่องกระแสถกเถียงในสหรัฐฯเกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้
+++นายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความของประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นให้การต่อคณะกรรมการฝ่ายควบคุมดูแลและปฏิรูปแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า ประธานาธิบดีมีพฤติกรรมคดโกงและเหยียดผิว ซึ่งทำให้รู้สึกละอายใจที่ทำงานให้มานานนับทศวรรษ ทั้งนี้ นายโคเฮน ยอมรับว่า ประธานาธิบดีมีพฤติกรรมละเมิดกฎหมายในหลายกรณี แต่ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีพฤติกรรมสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซีย แต่ทราบว่า เคยเจรจาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกรุงมอสโก ทั้งที่เคยพูดว่าไม่สนใจทำธุรกิจในรัสเซีย นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังทราบเรื่องที่คณะทำงานฝ่ายรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เผยแพร่อีเมลหลายฉบับเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 นายโคเฮน ยังเปิดเผยด้วยว่า ประธานาธิบดีเห็นชอบให้นำเงินไปจ่ายให้กับสตรี 2 คนที่เปิดเผยว่าเคยมีความสัมพันธ์ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเงินทุนเพื่อการหาเสียงเลือกตั้ง
ด้านประธานาธิดีทรัมป์ ทวีตข้อความตอบโต้คำให้การของนายโคเฮนว่าเป็นการโกหกเพื่อแลกกับการลดโทษจำคุก เนื่องจาก นายโคเฮน ถูกศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 3 ปี หลังจากที่รับสารภาพหลายคดี ซึ่งรวมถึงการละเมิดกฎหมายควบคุมการใช้จ่ายในช่วงหาเสียง การฉ้อโกงเงิน การหลีกเลี่ยงภาษี และให้การเท็จต่อสภาคองเกรส โดยมี 2 คดีที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนกฎหมายเงินทุนเพื่อการหาเสียงเลือกตั้ง และนายโคเฮน อายุ 52 ปียังเป็นบุคคลต้องสงสัยในการสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้ง ซึ่งมีนายโรเบิร์ต มุลเลอร์ เป็นอัยการพิเศษหัวหน้าคณะทำงาน
+++สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอินเดียกับปากีสถาน อินเดียและปากีสถาน ทำสงครามกันแล้ว 2 ครั้งเกี่ยวกับข้อพิพาทแคชเมียร์ และทั้งสองชาติ ยังครอบครองอาวุธนิวเคลียร์อีกด้วย ก่อนที่อินเดียและปากีสถาน จะได้รับเอกราชจากอังกฤษในเดือน ส.ค.1947 ทั้งสองฝ่ายต่างก็แย่งกันครอบครองแคชเมียร์ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ขอให้ปากีสถานและอินเดีย ใช้ความอดกลั้นและหาทางป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หลังจากทั้งสองฝ่ายใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกันเป็นครั้งแรก
เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า นายชาห์ มาห์มูด กูเรชี รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน โทรศัพท์แจ้งความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับข้อพิพาทอินเดียให้นายหวังทราบ และแสดงความหวังว่าจีน จะแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการคลี่คลายความตึงเครียดนี้
ทางการอินเดีย เรียกเอกอัครราชทูตปากีสถานเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือประท้วงต่อการแสดงความก้าวร้าว และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักบินของอินเดียในทันที ทั้งนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศที่ต่างก็มีอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มระดับขึ้น
เมื่อวานนี้ อินเดีย ได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อพื้นที่ในปากีสถานที่อินเดียระบุว่าเป็นค่ายฝึกของกลุ่มติดอาวุธที่อ้างว่าระเบิดขบวนรถเจ้าหน้าที่อินเดียในแคชเมียร์เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 40 นายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นับเป็นครั้งแรกที่อินเดียปฏิบัติการในปากีสถานหลังทำสงครามกันครั้งหลังสุดในปี 2514 ทำให้ปากีสถานตอบโต้ในวันเดียวกันด้วยการทิ้งระเบิดเป้าหมายหลายจุดตามเส้นควบคุมที่แบ่งแคชเมียร์ออกเป็นของอินเดียและปากีสถาน ต่อมาปากีสถานยิงเครื่องบินกองทัพอากาศอินเดียสองลำตกในวันพุธ ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นทำให้อินเดียปิดท่าอากาศยานทางเหนือหลายแห่ง ขณะที่ ปากีสถานประกาศปิดน่านฟ้าทั้งประเทศ เที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมดถูกยกเลิก ส่วนเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้าปากีสถานก็ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทาง
เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ขออนุญาตใช้เส้นทางบินผ่านจีน เพื่อทำการบินไปยังยุโรปตามตารางการบินปกติ โดยไม่บินผ่านน่านฟ้าปากีสถาน ตรวจสอบตารางการบินได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com หรือ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง การบินไทย ประสานกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวฯ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือแม้แต่ภาคเอกชน สมาคมการท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็ได้ส่งตัวแทนเข้ามาช่วยเหลือดูแลผู้โดยสารนักท่องเที่ยว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ระบุว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน ยอมรับว่า ปัญหาความขัดแย้งของประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศมักจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของหลายประเทศด้วยเช่นกัน รวมถึงไทยด้วยที่ได้รับผลกระทบ
ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทย-อินเดีย ระบุว่า ปัจจุบัน ไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญอันดับ 4 ของอินเดียในอาเซียน รองจากสิงคโปร์ อินโดนีเซียและมาเลเซีย อินเดีย เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 9 ของโลก เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย ถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญของหลายประเทศ รวมทั้งไทยด้วย โดยการค้าระหว่างอินเดียและไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากสิทธิประโยชน์จากการค้าเสรีที่เพิ่มขึ้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า การตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยร่วมมี 2 แบบ คือ FTAไทย-อินเดีย (TIFTA) เป็นการลดภาษีศุลกากรสินค้า 83 รายการ เช่น ทุเรียน อัญมณี และ FTAอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) เป็นการลดภาษีสินค้า 5,224 รายการ เช่น น้ำผลไม้ เครื่องสำอาง สินค้าไทยที่นิยมส่งออกไปอินเดีย เช่น เม็ดพลาสติก รถยนต์ อัญมณี อุปกรณ์และส่วนประกอบ และภาคบริการที่เติบโตรวดเร็ว เช่น การโรงแรม และประกันภัย อินเดีย เป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจของผู้ประกอบการ SMEs
ขณะที่ ปากีสถาน เป็นแหล่งทรัพยากรด้านอัญมณีและประมงที่สำคัญของไทย แนวโน้มการส่งออกสินค้า ประเภทยานยนต์และชิ้นส่วนจากไทยไปปากีสถาน มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปากีสถานเป็นคู่ค้า อันดับที่ 46 ของไทย และ การค้าไทย-ปากีสถาน มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 916 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2553 เป็น 1,016 ล้านเหรียญสหรัฐ ใน ปี 2557 โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าปากีสถานมาโดยตลอด เฉลี่ยปีละประมาณ 777 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2557
CR:CNN
อิสราเอลระงับช่วยเหลือกาซาเหนือ อ้าง ฮามาสปล้น สิ่งของบรรเทาทุกข์
...
พิชัย ยอมรับ ตั้งล็อบบี้ยิสต์ เจรจาภาษีตอบโต้ กับสหรัฐ เพราะมีความซับซ้อน
...
ผลหารือ ไทย-ฝรั่งเศส ย้ำแก้ปัญหาขัดแย้งกัมพูชา อย่างสันติ
...
ข่าวทั้งหมด
