+++การพบกันครั้งที่สองในการประชุมสุดยอดที่ฮานอย เวียดนาม ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯและนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ผู้นำสหรัฐฯ หวังว่า จะกดดันให้ผู้นำเกาหลีเหนือบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ กำหนดการของผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ไม่ได้รับการเปิดเผยในรายละเอียด ภายหลังจากที่มีการคุยกันมาล่วงหน้าเมื่อวันอังคาร โดยการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่สิงคโปร์เมื่อปีที่แล้วยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมมากนัก แต่เกาหลีเหนือ ได้ระงับการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์มาเป็นปีแล้ว ขณะที่ นายทรัมป์ กล่าวว่า หากเกาหลีเหนือปลดชนวนนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ เกาหลีเหนือ จะเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว สำหรับทางการเวียดนามประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดสหรัฐ-เกาหลีเหนือครั้งที่สอง ได้จัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำให้กับนายคิมและนายทรัมป์ ในวันนี้
ประชาชนในกรุงฮานอย แสดงความหวังว่า การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำทั้งสองคนจะประสบความสำเร็จ
ขณะที่ นายทรัมป์ คาดหวังว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้ จะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจเกาหลีเหนือจะเฟื่องฟูมากขึ้น หากเกาหลีเหนือยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
โฆษกหญิงทำเนียบขาวสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และนายคิม จะได้สนทนากันเป็นการส่วนตัวในช่วงเวลาสั้นๆเย็นวันนี้ จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายและล่าม จะได้ร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำกัน โดยมีกำหนดพบหารือสองฝ่ายในวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.พ.การประชุมสุดยอดสหรัฐ-เกาหลีเหนือครั้งที่สองมีขึ้นภายหลังจากการประชุมครั้งแรกจัดขึ้นในสิงคโปร์เมื่อ 8 เดือนก่อน
สถานีโทรทัศน์ทางการเกาหลีเหนือแพร่ภาพ นายคิม เดินทางถึงสถานีรถไฟที่จังหวัดหลั่นเซิน ของเวียดนาม ทันทีที่เดินทางมาถึง นายคิม ได้รับฟังรายงานสรุปของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือที่ร่วมหารือกับคณะทำงานของสหรัฐฯ สถานีโทรทัศน์ทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่า หลังการประชุมสุดยอดกับผู้นำสหรัฐฯ นายคิม จะเยือนเวียดนามต่อระหว่างวันที่ 1-2 มีนาคม
เวียดนาม ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด บริเวณที่พักของผู้นำเกาหลีเหนือ คือ โรงแรมเมเลีย อยู่ห่างจากโรงแรมโซฟิเทล รีเจ้นส์ เมโทรโปล บริเวณที่ผู้นำทั้งสองคนจะพบกันประมาณ 1กิโลเมตร ขณะที่ โรงแรมที่พักของนายทรัมป์ คือ โรงแรมเจดับบลิวแมริออต อยู่ห่างออกไปประมาณ 7 กิโลเมตร มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูสุดเช่นกัน ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องผ่านและมีการปิดถนน รวมถึงตกแต่งเมืองฮานอย ด้วยดอกไม้และธงชาติของสามประเทศ
การจัดเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยให้นายคิม เป็นภาพที่คุ้นตาเป็นอย่างดีกับภาพของบอดี้การ์ด หรือองครักษ์ชุดสูทดำ ทำหน้าที่อารักขา คอยวิ่งตามประกบรถกันกระสุนของนายคิม ทันทีที่ออกจากสถานีรถไฟเมืองด่งดาน และออกเดินทางต่อไปยังกรุงฮานอย องครักษ์ชุดนี้ก็ไปปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกัน สำหรับองครักษ์พิทักษ์ผู้นำเกาหลีเหนือ หลักๆ จะมี 12 คน สวมชุดสูทดำ ผูกเนกไท เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยพิเศษในกองทัพที่รู้กันในชื่อว่า สำนักงานหลักแห่งองครักษ์ หรือสำนักงานพรรคกลาง ถือเป็นหนึ่งในทีมบอดี้การ์ดชั้นสูงของนายคิม มีสมาชิก 200-300 นาย สามารถพกปืนใกล้ผู้นำคิมได้ ทั้งหมดต้องผ่านการคัดเลือกและตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้น สอบประวัติสมาชิกครอบครัวย้อนหลัง 2 รุ่น เน้นคัดเลือกลูกหลานครอบครัวชนชั้นสูงในประเทศ ต้องมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง สายตาดี เป็นนักแม่นปืน และเก่งศิลปะการต่อสู้ รวมถึงหน้าตาดีด้วย ส่วนทีมดูแลความปลอดภัยอีกชุดหนึ่งคัดเลือกจากกองบัญชาการองครักษ์ คล้ายกับหน่วยตำรวจลับของสหรัฐฯที่ดูแลความปลอดภัยให้ผู้นำและครอบครัว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง มีประมาณ 95,000-100,000 นาย กระจายอยู่ทั่วประเทศ
+++พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ความคืบหน้าคดีบุกรุกและทำร้ายร่างกายนักเรียน อาจารย์ เจ้าหน้าที่ รปภ. โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ พนักงานสอบสวนสอบได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และนำตัวผู้ต้องหารวม 24 คน ส่งฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี และ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยไม่ให้ประกันตัว ส่วนความคืบหน้าการสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ คาดว่า จะสามารถสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ภายในเวลา 7 วัน พนักงานสอบสวน ยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อมูลการสืบสวน,รอผลการชันสูตรบาดแผลจากแพทย์ผู้ตรวจ , ผลพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหาจากทะเบียนประวัติอาชญากร และ สอบปากคำพยานปากต่างๆ
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ. เร่งประชาสัมพันธ์ ให้นักเรียนที่ต้องการสอบรอบพิเศษในวันที่ 5 มีนาคมนี้ ยื่นแสดงความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ และสายด่วน 02-217-3800 ก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดย สทศ.จะประกาศรายชื่อในวันที่ 2 มีนาคม ส่วนเรื่องคดีความสทศ.เตรียมประมาณการค่าใช้จ่ายการจัดสอบใหม่ รวมถึงค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อดูข้อกฎหมายดำเนินการเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับผู้ก่อเหตุ
+++กรณีศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นัดแรกในวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่เรียกพยานชี้แจง ทั้งนี้ การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ จะไม่มีกรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกรายใดของพรรคไทยรักษาชาติเดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้แจ้งให้พยานเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณารายละเอียดคำร้องของกกต.คำชี้แจงพยานหลักฐานต่างๆ ที่พรรคไทยรักษาชาติยื่นเข้ามา และคำคัดค้านแก้ข้อกล่าวหาพรรคไทยรักษาชาติของกกต. จากนั้น จึงจะมีมติว่าจะดำเนินขั้นตอนการพิจารณาอย่างไร
แฟ้มภาพ
อิสราเอลระงับช่วยเหลือกาซาเหนือ อ้าง ฮามาสปล้น สิ่งของบรรเทาทุกข์
...
พิชัย ยอมรับ ตั้งล็อบบี้ยิสต์ เจรจาภาษีตอบโต้ กับสหรัฐ เพราะมีความซับซ้อน
...
ผลหารือ ไทย-ฝรั่งเศส ย้ำแก้ปัญหาขัดแย้งกัมพูชา อย่างสันติ
...
ข่าวทั้งหมด
