สถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายของจ.ระยอง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้พามาเที่ยวชม"ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่ เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว" ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1,661 ไร่ ในอ.บ้านค่าย จ.ระยอง เรือนจำชั่วคราวแห่งนี้ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ในการพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพ และคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง รวมถึงพัฒนาพื้นที่และเศรษฐกิจของเรือนจำ ปัจจุบันเรือนจำฯมีผู้ต้องขัง 236 คน หัวหน้าเรือนจำและผู้คุมอีก 12 คน ทุกคนจะมีหน้าที่ดูแลโซนต่างๆที่ได้รับมอบหมายที่ขณะนี้มีอยู่ 4 โซนหลัก เช่น โซนเพาะเลี้ยงสัตว์, โซนเกษตรกรรม ยกเว้นผู้คุมบางคนและผู้ต้องขัง 35 คนที่ออกไปทำงานนอกเรือนจำตลอดวัน
เมื่อเดินลึกเข้ามาในเรือนจำชั่วคราว จะพบกับโซนแรกที่เป็นการเลี้ยงหมูหลุมรวม 10 หลุม 50 ตัว ขณะที่ฝั่งตรงข้ามจะเป็นการเลี้ยงแม่ไก่เพื่อนำไข่ไก่ไปขาย ก็ต้องบอกว่าแม่ไก่ในเรือนจำแห่งนี้ได้รับความเอาใจใส่อย่างดีและมีสุขภาพดีแน่นอน เพราะมีการเปิดเพลงสบายๆรื่นหูให้ฟังตลอดวัน นางสุกฤตา เพชรหนองชุม ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขังเรือนจำกลางระยอง เสริมว่า การเปิดเพลงจะช่วยให้แม่ไก่อารมณ์ดีเหมือนคนที่ได้ฟังเพลง ทั้งช่วยให้แม่ไก่ออกไข่ได้มากขึ้นและง่ายขึ้น โดยปกติแม่ไก่ก็จะออกไข่หลัง 18.00น.-00.00น. แล้วตอนเช้าผู้ต้องขังก็จะมาเก็บไข่เตรียมนำไปขาย ส่วนแม่ไก่จะเลี้ยงไปจนตายโดยไม่มีการส่งฆ่า เดินต่อมาเป็นการเลี้ยงเป็ดหลายร้อยตัวที่ด้านหลังจะมีคลองให้เป็ดได้เล่นน้ำคลายร้อน
เดินลึกเข้ามาอีกก็จะพบบ่อปลาดุกกว่า 50,000 ตัว ก่อนที่จะเป็นโซนปลูกพืชผัก เช่น ผักบุ้ง, ใบกระเพรา เป็นต้น ภายในเรือนจำชั่วคราวยังแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับเลี้ยงวัว, ปลูกทุเรียน และผลไม้อีกหลายชนิดด้วย โดยสินค้าต่างๆจะถูกนำไปขายในหลายช่องทาง
สำหรับตลาดนัดหน้าเรือนจำที่จะมีทุกวันพุธ ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00น. ขายให้ประชาชนที่มารับซื้อในเรือนจำ และออกหน่วยเคลื่อนที่ร่วมกับทางจังหวัด เป็นต้น เฉลี่ยต่อเดือนจะมีรายได้จากการขายสินค้าต่างๆอยู่ที่ 250,000 บาท โดยรายได้ร้อยละ 10 จะถูกส่งเข้ากรมราชทัณฑ์ตามกฎหมาย ส่วนที่เหลือจะปันผลให้ผู้ต้องขังและผู้คุมต่อไป และหากรวมกับผู้ต้องขังที่ออกไปทำงานข้างนอกแล้ว ต่อเดือนเรือนจำชั่วคราวก็จะมีรายได้ถึง 500,000 บาท
นางสุกฤตา เล่าให้ฟังอีกว่า นอกจากสอนทักษะการปลูกผักและเลี้ยงสัตว์แล้ว เรือนจำแห่งนี้ยังมีการสอนวิชาชีพ เช่น การเป็นช่างซ่อมรองเท้า, ช่างเชื่อม, การทำก๋วยเตี๋ยว ให้กับผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษด้วย เพื่อหวังให้มีทักษะอาชีพหลายๆด้านติดตัวไปยามพ้นโทษ เพื่อนำไปหารายได้และไม่หวนกลับมาทำผิดอีก ส่วนผู้ต้องขังที่มาอยู่ในเรือนจำชั่วคราวแห่งนี้ ทั้งหมดจะเป็นผู้ต้องขังที่เหลือโทษจำคุกไม่ถึง 5 ปี และรับโทษจำคุกจากเรือนจำกลางระยองมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษจำคุกทั้งหมด ทั้งยังต้องเป็นนักโทษชั้นดีและเพิ่งถูกจำคุกเป็นครั้งแรก โดยทุกคนยังต้องถือวินัยและปฏิบัติตามกฎเคร่งครัด ถ้าไม่ทำก็จะถูกส่งกลับไปเรือนจำกลางทันที ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเจอผู้ต้องขังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพราะทุกคนต่างกลัวการไปอยู่เรือนจำกลาง และหวังจะพ้นโทษในเร็ววัน
และในวันที่ 3 มีนาคม ก็จะมีมิสแกรนด์ระยองมาร่วมทำกิจกรรมต่างๆในศูนย์การเรียนรู้ฯของเรือนจำด้วย โดยปัจจุบันศูนย์การเรียนรู้ฯของเรือนจำยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชม ถ้าผู้ใดประสงค์จะเข้าชมต้องทำหนังสือขออนุญาตมาเป็นการเฉพาะเท่านั้น
#ททท #TAT1672 #js100