กรณีนายบอล ธงแก้ว พ่อค้าไก่ย่าง ถูกกลุ่มวัยรุ่นย่านฝั่งธนรุมทำร้ายร่างกายโดยใช้มีดฟันที่ใบหน้าและมือ เย็บกว่า70เข็ม ในซอยเพชรเกษม48 อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสน.บางเสาธง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวแล้ว2รายที่สารภาพว่าเป็นคนใช้มีดฟัน แต่ผู้เสียหายยังเชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายราย ทำให้ในวันนี้นายบอลและภรรยาพร้อมทนายความได้เดินทางมาที่สน.บางเสาธง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดยบอกว่า หลังจากพูดคุยกับตำรวจชุดทำคดีนี้ พอใจการทำงานระดับหนึ่ง เพราะทราบว่ามีการออกหมายจับเพิ่มอีก2ราย ส่วนที่ออกมาติดตามคดีวันนี้ ไม่ได้ต้องการเงิน เพราะหากต้องการเงินจริง ก็คงรับเงิน50,000บาท ตั้งแต่ที่ฝ่ายแม่คู่กรณีเสนอมาเพื่อขอปิดคดีแล้ว
นายบอล ยอมรับว่า ยังรู้สึกหวาดระแวงอยู่ เพราะตนเองและครอบครัว อาศัยทำมาหากิน ในพื้นที่เกิดเหตุ และเชื่อว่าผู้ร่วมก่อเหตุมีมากกว่า10คนและยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ที่ผ่านมาไม่รู้จักกับคนกลุ่มนี้มาก่อน และในวันเกิดเหตุก็ไม่ได้ต่อว่าบุพการีฝ่ายตรงข้าม รวมถึงไม่มีอาวุธ จะไปทำร้ายฝ่ายตรงข้ามก่อนทำไม แต่ยอมรับว่าได้ถามฝ่ายคู่กรณีก่อนว่า มองหน้าทำไม ส่วนรูปพรรณสันฐานจำได้เพียงคนที่ใช้มีดฟันเท่านั้นนอกจากนี้ยังมองว่าข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ตำรวจดำเนินคดีคู่กรณีนั้นเบาไป เพราะตนเองถูกฟันที่ใบหน้าและมือ หากไม่เอามือบัง คงโดนฟันที่ศรีษะแล้ว
ด้านพล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 กล่าวว่า หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมรวมถึงผลการตรวจจากแพทย์ออกมายืนยันว่าพยายามฆ่า ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ ล่าสุด พนักงานสอบสวนสน.บางเสาธงได้ขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่งชัน อนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุได้เพิ่ม2ราย เป็นเยาวชนอายุ15-16ปี และเป็นผู้ที่ถือก้อนหินและเก้าอี้ทำร้ายร่างกาย คาดว่า 3-4 วันจะสามารถติดตามตัวได้ เพราะเป็นคนในพื้นที่ จากแนวทางการสืบสวนยังทราบชื่อผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มอีก3-4ราย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนว่า มีการเข้าร่วมทำร้ายผู้เสียหายด้วยหรือไม่
ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ยืนยันว่า จะดูแลผู้เสียหายไม่ต้องกังวล เนื่องจากมีชุดสายตรวจคอยตรวจตราพื้นที่อยู่แล้ว หากพบว่ามีการข่มขู่ ก็สามารถเข้าแจ้งความได้ ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และจากการตรวจสอบเป็นการทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อิทธิพลในพื้นที่
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหนึ่งในผู้ก่อเหตุ เป็นญาติหรือลูกน้องของตำรวจในพื้นที่นั้น พันตำรวจเอกศุภกิจ ต่อบุญ ผู้กำกับการสน.บางเสาธง ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน และจากการสอบปากคำผู้ต้องหา2ราย ที่ก่อนหน้านี้เข้ามอบตัว ให้การว่าไม่ได้เตรียมอาวุธมาก่อเหตุล่วงหน้า แต่หยิบอาวุธจากละแวกจุดเกิดเหตุเท่านั้น สำหรับคดีนี้ ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว4ราย เข้ามอบตัวแล้ว2ราย อีก2รายอยู่ระหว่างติดตามตัว