ชาวบ้านชุมชนบ้านอ่าวมะขามป้อม อ.แกลง จ.ระยอง จับปูม้า-ปลาหมึกอนุรักษ์ตามธรรมชาติ

21 กุมภาพันธ์ 2562, 12:51น.


วันที่สองของการพาสื่อมวลชนออกสำรวจเส้นทางอาหารจังหวัดระยอง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เช้าวันนี้ ททท. ได้พามาที่ชุมชนบ้านอ่าวมะขามป้อม ที่ตั้งอยู่บริเวณอ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งชาวบ้านในชุมชนได้ยึดอาชีพประมงเป็นอาชีพหลัก โดยเน้นจับปูม้าและปลาหมึก ควบคู่ไปกับการทำธนาคารปูไข่ เพื่ออนุรักษ์ปูม้าให้มีเพียงพอในธรรมชาติด้วย





นายเลขา ความเพียร หนึ่งในชาวประมงพื้นบ้าน เล่าให้ฟังว่า ชุมชนนี้ชาวประมงจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มจับปูม้า และกลุ่มจับปลาหมึก ชาวประมงที่จับปูม้าจะมีประมาณ 21 ราย แต่ละวันจะเดินเรือออกไปจับปูม้าวันละ 2 รอบ รอบแรกประมาณ 05.00น.-08.30น. จากนั้น จะกลับมาที่ชุมชน เพื่อแยกปูม้าไปขายก่อนรอบแรก แล้วประมาณ 10.00น. จะออกเรือไปจับปูม้ารอบสองจนถึงช่วงเที่ยงก็จะกลับเข้าฝั่ง โดยจะออกเรือไปตามอ่าวไทยประมาณ 7 ไมล์ทะเล แล้วไปขึ้นหาดเพื่อดักจับปูม้า ในช่วงนี้จับได้น้อย แต่ตามปกติก็จะจับปูม้าได้วันละ 4-5 กิโลกรัม แต่ถ้าในหน้ามรสุมคือตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายนของทุกปี จะจับได้ถึงวันละ 50-60 กิโลกรัม หรือประมาณวันละ 300-500 ตัว หลังจับมาแล้วจะนำปูม้ามาแกะออกจากอวนแล้วมัดเตรียมส่งขาย จากนั้นจะทำการเชงอวน คือ ไล่คลี่อวนเพื่อไม่ให้อวนพันกัน ถ้าเชงอวนเสร็จแล้วก็จะคล้ายเป็นสัญลักษณ์ว่าพร้อมนำเรือออกไปทำประมงต่อ ส่วนการขายปูม้า จะใช้มาตรฐานเดียวกันคือขายตามขนาดแบ่งเป็นเล็ก, กลาง และใหญ่ เพื่อส่งให้พ่อค้าคนกลางที่จะมารับซื้อถึงชุมชน โดยปูม้าขนาดใหญ่ ราคาประมาณกิโลกรัมละ 360 บาท ขนาดกลาง 200 บาท และขนาดเล็ก 160 บาท ทั้งนี้ราคาอาจจะแตกต่างกันจากนี้เล็กน้อยตามแต่การตกลงของผู้ซื้อและผู้ขาย





นายเลขา เล่าต่ออีกว่า ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของชุมชนจะเป็นกลุ่มประมงที่จับปลาหมึก ซึ่งมีอยู่ 20 กว่าราย โดยจะออกเรือกันตั้งแต่ 04.00น. และกลับเข้าฝั่งช่วงบ่าย บางรายออกเรือไปไกลถึง 40-50 ไมล์ทะเล หรือไปถึงเกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งชุมชนแห่งนี้ก็มีวิถีชีวิตเช่นนี้ มานานหลายสิบปีแล้ว และยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลบังคับให้ต้องทำเรือและอุปกรณ์จับสัตว์น้ำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบว่าด้วยการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม(ไอยูยู) เพราะถูกตรวจอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรือบางลำที่ไม่มีทะเบียนเรือถูกจับและยึดเรือทันที ส่งผลต่อการประกอบอาชีพ





นอกจากนั้น ชุมชนแห่งนี้ ยังมีการจัดตั้งธนาคารปู โดยนายเสงี่ยม ไตรวงษ์ ประธานประมงพื้นบ้านเรือเล็กอ่าวมะขามป้อม เล่าว่า ธนาคารนี้มีมานานร่วมสิบปีแล้ว โดยเกิดจากแนวคิดของชาวประมงในชุมชนที่ต้องการอนุรักษ์ปูม้าให้มีเพียงพอในธรรมชาติ โดยปูม้าที่จะเข้าธนาคารจะเป็นเฉพาะปูม้าเพศเมียที่มีไข่สีดำหรือสีเหลืองอ่อนเท่านั้น เนื่องจากกำลังจะวางไข่แล้ว โดยหากมีไข่สีดำจะใช้เวลาวางไข่ 1 คืน แต่ถ้าสีเหลืองอ่อนจะใช้เวลา 3-4 วัน หลังวางไข่เสร็จจะจับแม่พันธุ์ไปส่งขาย ส่วนไข่จะสูบออกไปทะเลเพื่อให้โตตามธรรมชาติต่อไป โดยเฉลี่ยปูม้าจะใช้เวลา 3 เดือนจึงจะโตเต็มวัย แต่ละวันจะมีปูม้าเข้าธนาคารถึงวันละ 100 ตัว ยอมรับว่าช่วงตั้งธนาคารแรกๆมีปัญหา เพราะไม่ได้รับการยอมรับ แต่ระยะหลังชาวประมงในชุมชนก็เข้าใจมากขึ้น ทั้งนี้ชุมชนแห่งนี้ยังเป็นชุมชนต้นแบบในการทำประมงของพื้นที่อีกด้วย





ก่อนหน้านี้ ททท. ยังได้พาไปชมตลาดประมงพื้นบ้านสวนสน ที่อยู่ติดอ่าวไทย บริเวณอ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นตลาดอาหารทะเลสดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในตัวเมือง โดยตลาดจะขายอาหารทะเลสด เช่น ปลาหมึก, ปลากระพง, ปูม้า ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00น. ของทุกวันด้วย



 



# ททท # TAT 1672 #JS100

ข่าวทั้งหมด

X