18 ตุลาคมของทุกปี องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็นวันสตรีวัยทองโลก (World Menopause Day)นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปีพ.ศ.2556 ทั่วโลกมีผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยทอง ประมาณ 800 ล้านคน ส่วนประเทศไทยมีผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยทองประมาณ 7 ล้านคนผู้หญิงที่อยู่ในวัยทองหรือหญิงวัยหมดระดู อายุระหว่าง 45-59 ปีเป็นช่วงวัยสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ที่มีผลจากการลดลงของฮอร์โมนเพศ จึงทำให้มีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างจากวัยอื่น
ผลการสำรวจภาวะสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพในผู้หญิงไทย อายุ 45-59 ปี ของสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย พ.ศ. 2554 พบว่า หญิงวัยทองร้อยละ 48 มีโรคประจำตัว โดย 3 อันดับแรกที่พบมาก ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ และร้อยละ 28 ของหญิงวัยทองมีความเสี่ยงสูงต่ออาการหญิงวัยทอง นอกจากนี้ยังพบภาวะอ้วนลงพุงร้อยละ 57 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้อยละ 40
ดังนั้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพสตรีวัยทองในพื้นที่ให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะและมีคุณภาพ โดยใช้หลัก 3อ. 2ส. 1น. คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันโรคที่จะเกิดตามมา เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจและหลอดเลือด กระดูกพรุน
ด้านดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า อาการวัยทองไม่ใช่โรค แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามธรรมชาติ ผู้หญิงวัยทองจะต้องรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมให้มากขึ้น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่น่าห่วงคือบางคนเมื่อมีอาการแล้วตนเองและคนในครอบครัวไม่เข้าใจ อาจจะเกิดปัญหากับชีวิตคู่หรือครอบครัวได้ง่าย