ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562

เวียดนามเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีการแบ่งกลุ่มกำลังตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทั่วกรุงฮานอยในช่วง 10 วันก่อนที่จะมีการประชุม กับมีชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง แม้เวียดนามจะมีความเสี่ยงของการก่อการร้ายในระดับต่ำ แต่ปัญหาแออัดของเมืองหลวง อาจกระทบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของผู้นำทั้ง 2 คน

ด้านหนังสือพิมพ์โรดองชินมุน ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่าเกาหลีเหนือกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ก่อนที่จะมีการประชุมที่เวียดนามซึ่งอาจมีประเด็นผ่อนคลายมาตรการลงโทษทางการค้าเพื่อแลกกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม กรณีที่สหประชาชาติมีการทำงานร่วมกับรัฐบาลเกาหลีเหนือเพื่อเปิดเส้นทางการบินพลเรือน เส้นทางใหม่ที่จะผ่านน่านฟ้าเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงและเวลาในการเดินทางระหว่างเอเชียกับยุโรปและอเมริกาเหนือนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามชะลอโครงการนี้ไว้จนกว่าจะเห็นความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญด้านการปลดอาวุธนิวเคลียร์

กลุ่มพวกนักเคลื่อนไหวในวอชิงตัน, ชิคาโกและอีกหลายเมืองในสหรัฐฯเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อประท้วงการที่ประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อโยกย้ายเงินงบประมาณด้านการกลาโหมมาใช้ก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก โดยระบุว่าเป็นการใช้อำนาจในทางมิชอบและยึดอำนาจของสภาคองเกรส ซึ่งนอกจากนี้ยังมีทางการอีกหลายรัฐที่ยื่นฟ้องร้องประธานาธิบดี ฐานละเมิดรัฐธรรมนูญ

นายฌอง คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ อีซี ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป หรืออียู เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี ทรัมป์ได้ให้สัญญาว่า สหรัฐฯ จะไม่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมรถยนต์ที่นำเข้าจากยุโรปในขณะนี้

ด้านนางมาร์การิติส ชินาส โฆษกของอียู เตือนว่า อียูจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว หากสหรัฐฯระบุว่ารถยนต์ของยุโรปเป็นภัยต่อความมั่นคง เพื่อนำไปสู่การขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ออกรายงานที่ชี้ว่า การนำเข้ารถยนต์จากอียูเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯและประธานาธิบดี ทรัมป์มีเวลา 90 วันในการพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้า

ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจไลบ์นิซ และมหาวิทยาลัยมาร์ติน ลูเธอร์ ฮอล-วิทเทนเบิร์ก ระบุว่า การที่สหราชอาณาจักรออกจากกลุ่มอียู หรือเบร็กซิต โดยไม่มีการทำข้อตกลง จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานจำนวนมากกว่า 100,000 ตำแหน่งในเยอรมนี โดยการนำเข้าจะลดลงร้อยละ 25 และจะกระทบต่อการจ้างงานของประชาชน 612,000 คนใน 43 ประเทศทั่วโลก โดยเยอรมนีจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์จะเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

ด้านบริษัทฮอนด้า ประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองสวินดอน ทางตะวันตกของสหราชอาณาจักรในปี 2565 ซึ่งจะทำให้มีการปลดพนักงาน 3,500 ตำแหน่ง โดยโรงงานแห่งนี้ใช้ในการผลิตรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค โดยมีสาเหตุมาจากทิศทางของเศรษฐกิจโลก ไม่เกี่ยวข้องกับเบร็กซิต

นายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีการต่างประเทศของสหราชอาณาจักรแจ้งยกเลิกกำหนดการเยือนจีนในสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องจากการที่นายกาวิน วิลเลียมสัน รัฐมนตรีกลาโหม ประกาศแผนนำเรือบรรทุกเครื่องบินเอชเอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ ออกปฏิบัติการลาดตระเวนและแวะพักตามท่าเรือของมิตรประเทศในภูมิภาคแปซิฟิก

ประธานาธิบดี เรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน แห่งตุรกี ยืนยันโครงการซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธเอส-400 จากรัสเซีย ซึ่งมีการตกลงขั้นสุดท้ายไปตั้งแต่สิ้นปี 2560 แต่เขาเปิดเผยด้วยว่า รัฐบาลอังการายังคงเปิดกว้างสำหรับข้อเสนอระบบแพทริออตจากสหรัฐฯ โดยทั้งตุรกีและรัสเซียต่างไม่เปิดเผยข้อมูลของข้อตกลง แต่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานว่าคำสั่งซื้ออยู่ที่ทั้งหมด 4 ชุด รวมมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์รายงานว่าสถานการณ์โรคหัดที่มีการระบาดตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ มีผู้ป่วย 8,443 ราย และมีผู้เสียชีวิต 136 ราย โดยเป็นจำนวนผู้ป่วยที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 253 ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตมีมากกว่าร้อยละ 491 ทั้งยอมรับว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

....