รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย แสดงความผิดหวังที่คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ อีซี จะเพิ่มชื่อซาอุดีอาระเบีย กับอีก 6 ประเทศอยู่ในบัญชีดำการฟอกเงิน โดยระบุว่าประเทศเหล่านี้ไม่มีความพยายามแก้ไขปัญหา หรือไม่มีการปราบปรามการฟอกเงินของกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มอาชญากร แต่การประกาศในครั้งนี้มีขึ้นในระหว่างที่มีความขัดแย้งจากเหตุฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุฯ ที่ถูกสังหารภายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกีเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ยุโรปจะเพิ่มรายชื่อ 7 ประเทศที่รวมถึง ซาอุดีอาระเบีย และปานามา ลงในบัญชีดำที่เดิมมีอยู่ 16 ประเทศที่ประกอบไปด้วยอิหร่าน อิรัก ปากีสถาน เอธิโอเปียและเกาหลีเหนือ แต่การขึ้นบัญชีดำนี้ ไม่มีผลกระทบต่อมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอื่นๆ เพราะจะเป็นการใช้มาตรการควบคุมการทำธุรกรรมทางการเงิน อย่างไรก็ตาม การขึ้นบัญชีจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อสภายุโรป ซึ่งมีสมาชิก 28 ประเทศลงมติรับรอง แต่ในเบื้องต้นนี้ฝรั่งเศสกับสหราชอาณาจักรคัดค้าน เนื่องจากเห็นว่า จะทำให้การทำธุรกิจระหว่างประเทศเกิดความสับสนเพราะไม่สอดคล้องกับคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการมาตรการทางการเงิน (FATF) เกี่ยวกับการฟอกเงิน
นายโมฮัมเหม็ด อัล-จาดายัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าซาอุดีอาระเบียมีความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับการฟอกเงิน และต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มก่อการร้าย จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของยุโรป และสมาชิกสภายุโรปเดินทางมาซาอุดีอาระเบียเพื่อรับทราบการทำงานโดยตรง และหวังว่าจะมีการเจรจาอย่างสร้างสรรค์กับหุ้นส่วนในสหภาพยุโรปเพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนการทำงานเพื่อต่อต้านการฟอกเงินและการก่อการร้ายในระดับนานาชาติและระดับภูมิภาค
...