การร้องเรียนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึง กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมอ้างว่าพรรคพปชร. ส่งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีหนังสือยินยอม และพล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นเจ้าของสื่อ โดยมองว่าคำร้องของนายเรืองไกรมี 2 ข้อ ซึ่งส่วนที่เกี่ยวข้องกับพรรคก็ให้ไปถามพรรคเอง ส่วนตัวไม่ทราบ ข้อบังคับพรรค สมาชิกพรรค ต้องเป็นผู้ปฏิบัติ แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่สมาชิกพรรค และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย จึงไม่สามารถตอบได้
ส่วนการกล่าวหาว่าพล.อ.ประยุทธ์มี Facebook ส่วนตัว ถือเป็นการปฏิบัติตัวเป็นเจ้าของสื่อ ขอให้ กกต. ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งหาก กกต.ไม่ติดใจหรือมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระเรื่องก็จบไป หากติดใจก็จะมีการตั้งคำถามมายังพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งก็ต้องชี้แจงเหตุผลให้ครบถ้วน ส่วนตัวไม่ขอออกความเห็นว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องไร้สาระหรือไม่
หลังจากนี้แนวปฏิบัติตัวของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งสามารถสวมเสื้อพรรค พปชร.ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากเป็นในเวลาราชการ ส่วนตัวมองว่าไม่สมควร ส่วนนอกเวลาราชการไม่แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ จึงขอสื่ออย่าถามก่อน ซึ่งฝ่ายกฎหมาย ก็ได้แนะนำข้อควรระวังกับพล.อ.ประยุทธ์ไปแล้วว่า ควรทำอย่างไรบ้าง
นายวิษณุ กล่าวว่า หากพรรค พปชร. จะเข้ามาหารือเรื่องนโยบายพรรคไม่สามารถทำได้ และขออย่ามองว่าพรรคจะเข้ามาหารือเรื่องนโยบายเพียงเรื่องเดียว เพราะบ้านเมืองยังมีเรื่องให้หารืออีกหลายเรื่อง เช่นคนเคยทำงานมาด้วยกัน อาจจะต้องพบเจอกันบ้าง ซึ่งตนเอง มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทราบในข้อจำกัดนี้ดี
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี