นายกฯ ขับเคลื่อนเมืองเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ จ.ยโสธร รองรับการเป็นมหานครแห่งเกษตรอินทรีย์

06 กุมภาพันธ์ 2562, 14:31น.


เมื่อช่วงเช้า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถียโสธร อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เป็นสักขีพยาน มอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวมให้ผู้แทนประชาชน จากนั้น นายกฯ ตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนเมืองเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ ซึ่งเกษตรกรในจังหวัดยโสธร รวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อพัฒนาเกษตรอินทรีย์มาอย่างยาวนานต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าวอินทรีย์ สามารถผลิตได้มากที่สุดในประเทศ



 





ปัจจุบัน จังหวัดยโสธร อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์ของจังหวัดยโสธร 2559 - 2562 ครอบคลุมทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ และยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมทั้ง เพื่อทำให้ยโสธรเป็นต้นแบบการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศตลอดห่วงโซ่คุณค่า รองรับการเป็นมหานครแห่งเกษตรอินทรีย์ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์สำหรับประชาชนทั่วไปที่สนใจ



นายกฯ กล่าวถึง จังหวัดยโสธรว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในด้านเกษตรอินทรีย์ จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ต้นแบบของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตข้าวอินทรีย์มากที่สุดในประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัด จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดยโสธร นับเป็นการพัฒนาที่ถูกทางอย่างที่สุดตาม  “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเป็นพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 อันจะนำพาชาวยโสธรไปสู่การอยู่ดีและมีความสุข แข็งแรงทั้งกายและใจ สุขภาพดี ไม่มีสารพิษเข้าสู่ร่างกายทั้งของตัวเกษตรกรเองและผู้บริโภค ตลอดจนมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามหลักการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพราะกินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กิน เหลือก็ขายเก็บออมไว้ใช้ รวมถึงปลูกทุกอย่างที่ตลาดต้องการ อย่าปลูกตามใจตัวเอง

ในส่วนของการพัฒนาคุณภาพสินค้าทางการเกษตร นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนยุทธศาสตร์พัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2564 ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การส่งเสริมการวิจัย การสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้ และนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาการผลิตสินค้าและบริการเกษตรอินทรีย์ ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาการตลาดสินค้าและบริการ และการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ ซึ่งทั้งหมดเพื่อขับเคลื่อนและส่งเสริมบูรณาการยุทธศาสตร์ทั้งหมดให้เกิดความต่อเนื่อง คาดว่า ในอนาคตจังหวัดยโสธร จะเพิ่มพื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์ได้ถึง 3 - 4 แสนไร่

 





ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ เตรียมกลไกในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้มีความชัดเจน และเตรียมแนวทางในการให้ความรู้แก่เกษตรกรที่จะมาใช้แนวทางเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และต้องเรียนรู้ร่วมกับเกษตรกร นำความรู้เข้าไปช่วยเหลือในการหาตลาดและเพิ่มช่องทางส่งเสริมการขายที่มากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุณภาพให้กับสินค้าการเกษตรที่ผลิตออกมา สร้างความไว้วางใจและสร้างเครือข่ายกับหุ้นส่วนการพัฒนารายใหม่ ๆ ระหว่างเกษตรกรและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรรายย่อยทำเกษตรอินทรีย์แบบพื้นบ้าน ไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมี ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรได้เกิดการปรับเปลี่ยนมาเข้าสู่การทำเกษตรอินทรีย์ให้มากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ของจังหวัด



จังหวัดยโสธร ได้รับการผลักดันโครงการเพื่อบริหารจัดการน้ำ และมีการจัดสรรงบประมาณให้กับทุกโครงการมาตั้งแต่ช่วงปี 2557 ถึงปี 2561 ขณะที่ในปี 2562 ก็มีการเพิ่มเติมโครงการอีก 94 โครงการ งบประมาณกว่า 931 ล้านบาท และในระหว่างปี 2563 ถึง 2565 ก็มีโครงการบรรจุอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาที่จะมีการจัดงบประมาณให้ในระยะต่อไป รวมถึงการพัฒนาเส้นทางและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ รองรับการพัฒนาของจังหวัดด้วย





นายกฯ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในทุกมิติต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ต้องให้ความร่วมมือและเข้ามามีส่วนร่วมและรับผิดชอบ ผลสำเร็จต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จึงจะเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

นายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการและนั่งรถรางเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ยโสธร การพัฒนามาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดยโสธร



CR:รัฐบาลไทย



 



 

ข่าวทั้งหมด

X