ในการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวแถลงนโยบายประจำปีต่อที่ประชุมรัฐสภาและฝ่ายตุลาการในวันนี้มีเนื้อหาส่วนใหญ่คือผลงานการบริหารประเทศในรอบ 1 ปีมานี้ ที่เขากล่าวว่าประสบความสำเร็จในหลายด้าน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวอเมริกัน แต่การเติบโตที่แข็งแกร่งนี้กำลังเผชิญกับการตรวจสอบแบบเลือกปฏิบัติที่ไร้สาระ ซึ่งเขาหมายถึงการสอบสวนข้อกล่าวหารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งในปี 2559 นอกจากนี้ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันได้เรียกร้องให้มีความสามัคคีทางการเมือง หลังจากที่เขาใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมต่อผู้นำวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ทั้งยืนยันความสำคัญของกระบวนการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหากับเกาหลีเหนือ และข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากล่าวยกย่องนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และมีกำหนดพบหารือเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 27 และ 28 กุมภาพันธ์นี้ที่เวียดนาม แต่ปรากฎว่ามีสมาชิกรัฐสภาเพียงไม่กี่คนที่ปรบมือยินดี
โดยในการย้ำความจำเป็นของโครงการสร้างกำแพงชายแดนทางใต้ที่ติดต่อกับเม็กซิโก ประธานาธิบดี ระบุว่า เป็นการป้องกันชาวอเมริกันให้มีความปลอดภัยจากผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเป็นการสกัดกลุ่มค้ามนุษย์ที่หลอกลวงสตรี และเด็กเข้ามาในดินแดนสหรัฐฯ ประธานาธิบดี กล่าวว่า เขาต้องการให้มีผู้เดินทางเข้าเมืองเพิ่มขึ้น แต่ต้องเป็นการเดินทางเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับการแถลงนโยบายในครั้งนี้ถูกเลื่อนมาจากเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่มีการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางชั่วคราว หรือชัตดาวน์ และนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ยินยอมให้ประธานาธิบดีใช้ห้องประชุม และหลังจากที่ประธานาธิบดีแถลงเสร็จสิ้น ก็จะเป็นการแถลงตอบโต้ โดยพรรคเดโมแครตมอบให้นางสเตซีย์ เอบรามส์ เป็นผู้แถลงตอบโต้ ซึ่งเธอระบุว่า สถานะทางเศรษฐกิจภายใต้การนำของรัฐบาลรีพับลิกันทำให้ชนชั้นกลางผิดหวัง
...