ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.35น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562

+++พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายสร้างอากาศดีเพื่อคนไทยและผู้มาเยือน แบ่งเป็นมาตรการระยะเร่งด่วน โดยเตรียมการสร้างความเข้าใจ ไปจนถึงขั้นฟื้นฟู หลังจากสถานการณ์กลับสู่ปกติ ประมาณเดือนพฤษภาคม  โดยมีการกำหนดถอดบทเรียนเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองให้มีประสิทธิภาพขึ้น 

+++นอกจากนั้น ยังให้ทุกจังหวัด จัดตั้งศูนย์ดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในระดับจังหวัด มีอำนาจหน้าที่ในการเข้าควบคุมสถานการณ์ อำนวยการ สั่งการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงาน เพื่อจัดการปัญหา จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

+++ส่วนมาตรการระยะกลาง ปี 2562-2564 เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละออง จะเป็นการลดการระบายมลพิษ และลดจำนวนแหล่งกำเนิด เช่น ประกาศใช้มาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิงให้เทียบเท่า มาตรฐาน EURO5 หรือ กำมะถันไม่เกิน 10 ppm ภายในปี 2564

+++มาตรการระยะยาว ปี 2565-2570 เช่น เร่งรัดการบังคับใช้มาตรฐานการระบายมลพิษ ทางอากาศจากรถยนต์ขนาดเล็กและรถยนต์ขนาดใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน EURO6 ภายในปี 2566 พัฒนาโครงข่ายการให้บริการขนส่งสาธารณะ ให้เชื่อมโยงทุกระบบ กำหนดมาตรฐานระบายอากาศเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมให้เทียบเท่าสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา กำหนดให้การเผาในที่โล่งของโครงการ หรือ พื้นที่ครอบครองมีความผิดอาญา และส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึง ภาคอุตสาหกรรมว่าจะมีการปิดโรงงานในบางช่วงเวลา หากมีความจำเป็นจริงๆ เพราะจากการตรวจโรงงาน จาก 100,000 โรงงาน พบว่า มีความเสี่ยงประมาณ 1,700 โรงงาน สั่งการให้หยุดปรับปรุงประมาณ 600 โรงงาน ส่วนใหญ่เป็นโรงงานที่ต้องใช้ความร้อนด้วยการต้มน้ำ

+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เนื่องจาก ค่าฝุ่นละออง PM2.5 - PM10 ส่วนใหญ่แล้วมาจากการใช้รถยนต์บนท้องถนน ที่มีกว่าร้อยละ 50 ดังนั้นจึงต้องมาดูว่าจะแก้ไขปัญหาการใช้รถยนต์บนท้องถนนได้อย่างไร โดยตั้งเป้าว่าจะต้องลดลงให้เหลือร้อยละ 35 ให้ได้ ดังนั้นต้องดูไปถึงตัวเครื่องยนต์ เช่น ไส้กรองอากาศ ระบบการใช้น้ำมัน ฯลฯ พร้อมหามาตรการช่วยเหลือเพราะเมื่อไม่สามารถใช้รถยนต์ดีเซลได้แล้ว ก็ต้องหามาตรการอื่นมาทดแทน เพราะถือว่ามีผลกระทบโดยรวม ถ้าทุกคนร่วมมือกัน ก็จะแก้ปัญหาได้

+++จากมาตรการที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่สามารถลดค่าฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานได้ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้ใช้รถยนต์ดีเซล ให้ตรวจสภาพเครื่องยนต์ ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้มีการสำรวจว่ารถยนต์ที่ใช้ตามท้องถนน ได้ติดตั้งเครื่องลดมลพิษหรือไม่ โดยได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม ไปหาวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว เพราะบางครั้งรถยนต์มีเครื่องลดมลพิษอยู่แล้ว แต่บางคนก็ถอดออก

+++วันนี้ กรมควบคุมมลพิษ  ร่วมกับ บก.จร. ตรวจสอบตรวจจับยานพาหนะ บนถนนสรรพาวุธ บางนา ถนนประเสริฐมนูกิจ ลาดพร้าว  ถนนราชพฤกษ์ ตลิ่งชัน ถนนรามอินทรา กม.9 และถนนบรมราชชนนี ตลิ่งชัน  เรียกรถตรวจสอบ 287 คัน เป็นรถขนาดใหญ่ 204 คัน ควันดำเกินมาตรฐานจำนวน 71 คัน เรียกตรวจรถยนต์ 83 คัน ควันดำเกินมาตรฐาน 19 คัน เจ้าหน้าที่ ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะ จำนวน 19 คัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เปรียบเทียบปรับรถที่มีควันดำเกินมาตรฐานแล้ว

+++กรุงเทพมหานคร(กทม.) ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจัด Big Cleaning ทุกวัน ทุกเขต ตลอดทั้งสัปดาห์ และประสานโรงเรียนและสถานประกอบการในพื้นที่ ขออนุญาต ใช้พื้นที่อาคารสูงในการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อจับฝุ่นละออง

+++กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ บก.จร. ตั้งจุดตรวจมลพิษ ผลการตรวจจับรถควันดำเกินมาตรฐาน จากรถที่เรียกเข้าตรวจทั้งหมด 1,372 คัน ตรวจสอบพบรถควันดำเกินมาตรฐาน 46 คัน แบ่งเป็นรถบรรทุก 41 คัน รถโดยสาร 5 คัน เจ้าหน้าที่ทำการปรับคันละ 5,000 บาท

+++คาดการณ์สถานการณ์ จากแบบจำลอง การคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของ คพ. คาดการณ์ว่าในวันพรุ่งนี้ปริมาณ PM2.5 มีแนวโน้มลดลง ประกอบกับการดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นละอองของหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มข้น จะส่งผลทำให้ปริมาณฝุ่นละออง ลดลง

+++ที่ประชุม ครม.รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 33/2562 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกฯและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯปฏิบัติราชการแทนนายกฯ ในส่วนของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกฯ ดังนี้ ดูแลกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และให้กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ดังนี้ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน)ให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2562  เป็นต้นไป

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคลื่อนไหวผันผวนในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค บรรยากาศยังคงเงียบเหงาด้วยมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง หลังตลาดหุ้นในภูมิภาคหลายแห่งปิดทำการช่วงเทศกาลตรุษจีน ยังรอแรงหนุนจากเงินลงทุน นักลงทุนต่างชาติ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,653.09 จุด ลดลง 0.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25,349.84 ล้านบาท

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดลบ 39.32 จุด ปิดที่ 20,844.45 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน

+++ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

+++ประชาชนเชื้อสายจีนทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และในย่านชุมชนจีนในเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ ร่วมเฉลิมฉลองวันตรุษจีน ต้อนรับปีหมู ตามปฏิทินจันทรคติจีน หมายถึงโชคลาภและมั่งคั่งร่ำรวย ปกติชาวจีน จะเริ่มต้อนรับปีใหม่ด้วยการไหว้พระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การเลี้ยงอาหารในครอบครัว การจับจ่ายซื้อของ การแลกเปลี่ยนของขวัญและการแจกอั่งเปา โดยเฉพาะในประเทศจีน เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ชาวจีน หลายร้อยล้านคน ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยรถไฟ รถทัวร์ รถยนต์และเครื่องบินโดยสาร เพื่อไปเยี่ยมญาติและเพื่อนๆในช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดว่า มีการเดินทางโดยพาหนะต่างๆรวมกันราว 3 พันล้านเที่ยวใน 2 สัปดาห์คือ ทั้งก่อนและหลังเทศกาลตรุษจีน นับเป็นการเคลื่อนย้ายอพยพประจำปีครั้งใหญ่ที่สุด ส่งผลให้การจลาจลในตัวเมืองใหญ่ๆในระยะนี้เบาบางกว่าปกติ

+++สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างข้อมูลจากซีทริป ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของจีน คาดว่า จะมีชาวจีน 7 ล้านคน เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างแดนในช่วงเทศกาลตรุษจีน

แฟ้มภาพ