11 ประเทศในกลุ่มยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, โปรตุเกส, สวีเดน, เดนมาร์ก, ออสเตรีย, เนเธอร์แลนด์, สาธารณรัฐเชค และเอสโทเนีย ประกาศรับรองนายฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลาเป็นประธานาธิบดีรักษาการ หลังจากที่กำหนดเวลาให้ประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร ประกาศจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใน 8 วันหรือวันที่ 3 กุมภาพันธ์ แต่ประธานาธิบดีมาดูโร ปฏิเสธ ทั้งตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดสหภาพยุโรปจึงชี้นำให้ประเทศหนึ่งประเทศใดในโลกนี้ที่จัดการเลือกตั้งไปแล้วว่า จะต้องจัดเลือกตั้งใหม่ เพราะฝ่ายที่พวกเขาสนับสนุนอยู่แพ้เลือกตั้ง มีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อบังคับให้ต้องเดินหน้าไปสู่การเผชิญหน้า จึงมีความกังวลว่าวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง รวมถึงเตือนไปยังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ว่าการเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของเวเนซุเอลาจะทำให้เขาต้องพ้นจากตำแหน่งในทำเนียบขาวไปด้วยมือที่เปื้อนเลือด
ด้านรัสเซีย ระบุว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในเพื่อสร้างความชอบธรรมให้การชิงอำนาจ นายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า การแทรกแซงกิจการภายในไม่สามารถช่วยแก้ไขวิกฤติที่ชาวเวเนซุเอลากำลังเผชิญอยู่ได้อย่างสันติ, มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ทั้งนี้นายกุยโดประกาศตนเป็นประธานาธิบดีรักษาการของเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 23 มกราคม โดยอ้างว่านายมาดูโรไม่มีความชอบธรรมตามกฎหมายเพราะมาจากการเลือกตั้งที่ไม่น่าเชื่อถือ จากนั้นรัฐบาลสหรัฐ, แคนาดา, ออสเตรเลีย และ กลุ่มลาตินอเมริกา ประกาศรับรอง ต่อมาเมื่อวานนี้ อีก 9 ประเทศในยุโรปก็ประกาศรับรอง
ประธานาธิบดี ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การใช้กำลังทหารแทรกแซงสถานการณ์ในเวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในทางเลือกของสหรัฐฯกำลังมีการพิจารณา
ส่วนอียูและหลายชาติในละตินอเมริกา ซึ่งร่วมกันก่อตั้งกลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อช่วยยุติวิกฤตทางการเมืองในเวเนซุเอลามีกำหนดจะหารือกันครั้งแรกที่กรุงมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของประเทศอุรุกวัย ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้
นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี เสนอทางออกของประเด็นแบ็คสตอปกรณีที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป หรือ เบร็กซิต โดยเรียกร้องให้มีการประนีประนอมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อผ่อนคลายความวิตกในการดำเนินการในอนาคตเกี่ยวกับชายแดนของไอร์แลนด์ หลังจากที่รัฐสภาสหราชอาณาจักรลงคะแนนเสียงคว่ำร่างข้อตกลงที่นายกรัฐมนตรีทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป และมีเวลาจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ที่จะต้องนำร่างข้อตกลงฉบับใหม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา แต่ผู้นำสหภาพยุโรปปฏิเสธที่จะเจรจาครั้งใหม่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เสนอให้มีการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงแยกต่างหากในประเด็นแบ็คสต็อป เพื่อรับรองว่าจะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป
โดยในขณะนี้ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 วัน นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น กล่าวว่า เขาและนายกรัฐมนตรี แมร์เคิล ของเยอรมนี จะร่วมแบ่งปันความรับผิดชอบในการทำงานเพื่อมุ่งสู่สันติภาพและความรุ่งเรืองของโลก และหวังว่ามีการแก้ไขปัญหาด้วยวิถีประชาธิปไตยต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นในเวเนซุเอลา
เว็บไซต์นิกเคอิรายงานอ้างข้อมูลจาก บริษัททัวร์และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และญี่ปุ่น ที่พบว่า นักท่องเที่ยวยังคงให้ความนิยมท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกแพ็คเกจทัวร์แบบอิสระมากกว่าการไปเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ คาดว่าปีนี้จะมีชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวประมาณ 400 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 386 ล้านคนในปี 2561 โดยเป็นการเดินทางไปต่างประเทศราว 7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากราว 6,500,000 คนเมื่อปี 2561
ทางการเดนมาร์ก เนรเทศพนักงาน 2 คนของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน เนื่องจากละเมิดกฎหมายการพักอาศัยและการอนุญาตทำงาน ตำรวจเดนมาร์กระบุว่า การตรวจสอบบริษัท หัวเว่ย สาขากรุงโคเปนเฮเกนเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบตามปกติ เนื่องจากเป็นสถานที่ทำงานซึ่งมีแรงงานชาวต่างชาติจำนวนมาก และพบพนักงานกระทำความผิด 4 ราย และให้เนรเทศ 2 คน แต่ไม่มีการเปิดเผยว่า พวกเขาเป็นชาวจีนหรือไม่
ตลาดหุ้นวอลสตรีท ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 175.48 จุด หรือร้อยละ 0.7 ปิดที่ 25,239.37 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 18.34 จุด หรือร้อยละ 0.68 ปิดที่ 2,724.87 จุด
และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 83.67 จุดหรือร้อยละ 1.15 ปิดที่ 7,347.54 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด ส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 70 เซนต์ หรือร้อยละ 1.3 ปิดที่ 54.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 24 เซนต์ หรือร้อยละ 0.4 ปิดที่ 62.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
…