กทม.ร่วมกับตึกใบหยก ฉีดพ่นน้ำจากยอดตึก ชั่วโมงเร่งด่วน เช้า-เย็น

ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดแก้ปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน ด้วยการให้ตึกสูงในกรุงเทพมหานคร ฉีดพ่นน้ำมาจากยอดตึก บ่ายวันนี้ กรุงเทพมหานคร(กทม.) นำโดยนาย ธีรยุทธ ภูมิศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตราชเทวี พร้อมด้วยทีมงานดับเพลิงของสำนักงานเขต ได้มาสาธิตการฉีดพ่นน้ำจากบนระเบียงชั้น 81 โรงแรมใบหยก สกาย(ตึกใบหยก 2) โดยมีนาย พันธ์เลิศ ใบหยก ประธานกลุ่มใบหยกให้ความเอื้อเฟื้อสถานที่

นาย พันธ์เลิศ ระบุว่า ปัญหาฝุ่นเป็นปัญหาระดับชาติที่น่าห่วงว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ จึงต้องช่วยแก้ไข โดยได้ร่วมกับกทม. ติดตั้งเครื่องพ่นน้ำที่บริเวณชั้น 81 ของตึกใบหยก 2 โดยนำน้ำมาจากแทงก์น้ำของโรงแรมที่จุน้ำได้ประมาณ 600 คิว ยืนยันว่า น้ำมีเพียงพอ นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นละอองในอากาศที่ชั้น 85 ตามคำสั่งของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย สำหรับการพ่นน้ำเบื้องต้นจะพ่นน้ำไปทุกวัน โดยจะทำเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนในเวลา 06.00-09.00น. และ 15.00-19.00น. ของทุกวัน 1 วินาทีจะพ่นน้ำได้ประมาณ 40 ลิตร และจะมีการประเมินผลเป็นระยะว่าควรปรับเเผนหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าไม่กังวลถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองแล้ว เพราะมีเครื่องพ่นละอองน้ำที่ติดตั้งไว้ตลอดและพร้อมปฏิบัติการทันที

นาย พันธ์เลิศ บอกว่า ใบหยกยินดีสนับสนุนภาครัฐเต็มที่ ส่วนการพ่นละอองน้ำจะได้ผลหรือไม่เป็นเรื่องทางวิชาการ แต่มองว่าดีกว่าไม่ได้ทำสิ่งใด พร้อมแนะนำภาคเอกชนให้ประสานประเทศจีน ยืมเครื่องพ่นละอองน้ำ เพราะน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า ทั้งนี้ โรงแรม ยังไม่ได้รับผลกระทบในด้านใดจากสถานการณ์ฝุ่นละออง

ด้านผู้อำนวยการเขตราชเทวี กล่าวว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) สั่งให้ทุกเขตดำเนินการแก้ปัญหาฝุ่น และได้รับความร่วมมือจากตึกต่างๆรอบเขตราชเทวีกว่าร้อยละ 70 เช่น อาคารสูง 8-9 แห่ง, คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ 14-15 อาคาร และไซต์งานก่อสร้างติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำแล้วเช่นกัน โดยแต่ละตึกเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างเองทั้งหมด ซึ่งก็จะมีวิธีการและเวลาที่พ่นน้ำต่างกันออกไป ส่วนการพ่นน้ำที่ตึกใบหยก 2 ก็ยืนยันว่าได้ผลดี พร้อมขอบคุณใบหยกที่ทำเพื่อสังคมส่วนร่วม ทั้งนี้ในเขตราชเทวี ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองลดลงต่อเนื่อง

ส่วนนาย ธัญญะ เกียรติวัฒน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า การพ่นน้ำเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ เพราะช่วยได้เฉพาะช่วงที่มีการพ่นน้ำเท่านั้น โดยการพ่นน้ำที่ตึกใบหยก 2 คาดว่าจะครอบคลุมพื้นที่ 50 เมตรโดยรอบ พร้อมแนะนำวิธีการแก้ว่าควรส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ ส่วนที่ปีนี้ฝุ่นละอองหนักกว่าทุกปี เพราะไม่มีลมและอากาศแห้ง

ขณะที่นาย พิพล บุญจันต๊ะ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การพ่นละอองน้ำจากตึกใบหยก 2 จะไม่กระทบกับประชาชนด้านล่าง เพราะน้ำจะสลายตัวในอากาศ แต่ก็มองว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวทำล่าช้าไป อีกทั้ง PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองที่จับยาก ทางที่ดีควรให้ประชาชนเลิกเผา และลดการใช้เชื้อเพลิงลง ควบคู่ไปกับการควบคุมมลพิษโรงงาน

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร