ผลสำรวจ เห็นว่า ควรใช้ ม.44 คุมสถานการณ์ฝุ่นละออง เข้าขั้นวิกฤต

02 กุมภาพันธ์ 2562, 10:41น.


ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน หรือสวนดุสิตโพล ที่พักอาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,353 คน ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ.2562 เรื่องประชาชนคิดอย่างไร กับสถานการณ์ฝุ่นละออง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 38.98 เห็นว่าเข้าขั้นวิกฤต เกินมาตรฐาน ร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ยังแก้ไขไม่ได้ รองลงมา ร้อยละ 37.01 มองว่า คุณภาพชีวิตแย่ อันตรายต่อสุขภาพ ระบบทางเดินหายใจ และร้อยละ 30.02 เห็นว่า ภาครัฐ ควรเร่งแก้ปัญหา มีมาตรการเร่งด่วน ทำอย่างจริงจัง



สอดคล้องกับความเห็นคนส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถาม คิดเป็นร้อยละ 47.04 มองว่า รัฐบาลและนายกฯ ควรใช้มาตรา44 ออกคำสั่งควบคุมสถานการณ์ ประกาศหยุดราชการ ห้ามใช้รถ บังคับใช้กฎหมายอย่างเร่งด่วน ร้อยละ 27.85 เห็นว่า กระทรวงสาธารณสุข ควรแจกหน้ากาก ดูแลสุขภาพของประชาชน แนะนำวิธีการดูแลตนเองที่ถูกต้องและมีหน่วยบริการเคลื่อนที่ และร้อยละ 22.63 เห็นว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ควรตรวจสอบและรายงานปริมาณฝุ่นละออง ให้ข้อมูลที่เป็นจริงและหาแนวทางในการลดปัญหาฝุ่นละออง     



นอกจากนี้ จากสถานการณ์ฝุ่นละออง สิ่งที่ประชาชนต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งด่วน ในขณะนี้ อันดับ1 ร้อยละ 54.14 รัฐบาลต้องแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ ร้อยละ 25.00 จำกัดปริมาณรถบนถนน ตรวจจับควันดำ ระงับการก่อสร้าง เผาในที่โล่ง และ ร้อยละ 18.23 เห็นว่า ควรแจกหน้ากากอนามัยให้ทุกครัวเรือน ควบคุมไม่ให้ขายเกินราคา



 



CR:suandusitpoll.dusit.ac.th



 

ข่าวทั้งหมด

X