องคมนตรี ติดตามเร่งรัดการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ

31 มกราคม 2562, 21:17น.

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม 2562 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมคณะอนุกรรมการ เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เพื่อเป็นประธานการประชุมสรุปผลการดำเนินงานติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเชิญถุงพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปมอบกับราษฎรและผู้ปฏิบัติงานโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
เวลา 10.00 น. องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานการประชุมสรุปผลการดำเนินงานติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 39 โครงการ จากการติดตาม เร่งรัด และขับเคลื่อนของคณะฯ ที่ผ่านมาสามารถอนุมัติงบประมาณในการดำเนินงานไปแล้ว จำนวน 14 โครงการ อยู่ระหว่างขอรับการสนับสนุนงบประมาณอีก 21 โครงการ และอยู่ระหว่างการเร่งรัด ขับเคลื่อนอีก 4 โครงการ ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จเพื่อสร้างประโยชน์ให้เกิดกับราษฎรตามพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อไป
จากนั้นคณะฯ ได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างทำนบดินหัวงาน กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี คือตั้งแต่ปี 2561-2564 และเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จก็สามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูฝน หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 5 ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ได้ประมาณ 4,500 ไร่ และในฤดูแล้งให้แก่พื้นที่บางส่วนในเขตโครงการได้ประมาณ 2,000 ไร่
จากนั้นเวลา 14.45 น. องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยังโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ภูขัดภูเมี่ยง ภูสอยดาว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก พร้อมกับเชิญถุงพระราชทาน จำนวน 250 ถุง มอบให้แก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในโครงการฯ
โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2538 โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 งาน คือ งาน ศอป. โครงการเพื่อความมั่นคงพื้นที่ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว งานศูนย์ศิลปาชีพภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว และงานสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว ดำเนินงานในลักษณะมุ่งเน้นการใช้พื้นที่ให้ราษฎรได้เรียนรู้การทำเกษตรแผนใหม่ที่ถูกต้อง ควบคู่กับการอนุรักษ์ดินและระบบนิเวศป่าไม้บนพื้นที่สูง และส่งเสริมงานด้านศิลปาชีพการทอผ้า และปักผ้าให้กับราษฎรซึ่งเป็นชาวไทยพื้นราบและชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ทำให้มีรายได้เสริมจากอาชีพหลักที่ทำเกษตรกรรม จากทอผ้ามีรายได้ 3,000 บาท ถึง 5,000 บาท และการปักผ้ารายได้ 5,000 ถึง 10,000 บาท มีสมาชิกรวม 898 คน นอกจากนี้ ยังเน้นให้ราษฎรร่วมฟื้นฟูผืนป่า โดยน้อมนำแนวพระราชดำริ การปลูกป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่างมาเป็นแนวทางการดำเนินงานรวมถึงการสร้างจิตสำนึกให้ตระหนักถึงความสำคัญของป่า ทำให้ราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ทำให้ป่ามีความสมบูรณ์ มีน้ำทำการเกษตรได้ตลอดปีมีผลผลิตอาหารที่ปลอดภัยจากสารพิษ รวมทั้งมีรายได้จากการเข้ามาทำงานในโครงการฯ และเพื่อให้การดำเนินงานบังเกิดประสิทธิภาพจึงกำหนดแผนงานในการจัดทำแปลงสาธิตการปลูกพืชที่ไม่ใช้ดิน รวมทั้งนำพืชที่มีราคา อาทิ แตงกวาญี่ปุ่น มะเขือเทศโทมัศ เมล่อน มาส่งเสริมให้กับราษฎรที่สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพต่อไป

CR:กองประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร.
ข่าวทั้งหมด

X