กรมทางหลวง ชี้แจงเรื่องให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการสำคัญ ยืนยัน รัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน

การชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน - นครราชสีมา และสายบางใหญ่ – กาญจนบุรี นายอานนท์  เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ชี้แจงกรณีที่โซเชียล ระบุว่า กรมทางหลวง เปิดสัมปทานให้เอกชนดำเนินการระบบเก็บค่าผ่านทาง การดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน - นครราชสีมา และสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี โดยมองว่ารัฐเป็นผู้ดำเนินการกลับให้เอกชนเก็บเงิน ว่าในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน PPP Gross Cost  ตามมติคณะรัฐมนตรี 22 สิงหาคม 2560 เอกชนเป็นผู้ออกแบบและลงทุนก่อสร้างงานระบบและองค์ประกอบพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เอกชนลงทุนก่อสร้าง รวมไปถึงรายได้ทั้งหมดจากค่าธรรมเนียมผ่านทาง โดยให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการทั้งหมด ทั้งในส่วนงานโยธาที่รัฐเป็นผู้ลงทุนและงานที่ส่วนเอกชนเป็นผู้ลงทุน ดำเนินการบริหารจัดการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ซึ่งเอกชนได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินค่าก่อสร้างระบบและองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าบำรุงรักษาและค่าบริหารจัดเก็บรวมทั้งค่าธรรมเนียมตามขอบเขตและเงื่อนไขที่กำหนด โดยมีระยะเวลาร่วมลงทุนไม่เกิน 30 ปีนับตั้งแต่เปิดให้บริการ จึงยืนยันว่ารัฐกับเอกชนมีหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกัน โดยเอกชน จะเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างงานระบบพร้อมจัดหาเงินทุน โดยรัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เอกชนลงทุนก่อสร้างและเอกชนจะเป็นผู้จัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เพื่อนำส่งรายได้ทั้งหมดให้แก่ภาครัฐ โดยเอกชนจะต้องรับความเสี่ยงและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการตลอดอายุของสัญญา ซึ่งคาดว่า จะจ่ายค่าตอบแทนจากการให้บริการตามเงื่อนไขและเกณฑ์คุณภาพ ซึ่งหากภาคเอกชนไม่สามารถดำเนินการได้ตามระดับคุณภาพที่ให้บริการตามที่ตกลงไว้ ภาครัฐจะมีกลไกการปรับลดวงเงินค่าตอบแทนที่จะจัดให้เอกชนด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณช่วงปลายปี 2564 ถึงปี 2565

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี