+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง การติดตั้งป้ายหาเสียงในกรุงเทพมหานคร(กทม.) นางสาววิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร(ผอ.สำนักงานกกต.กทม.) เปิดเผยว่า จะมีประกาศออกมาในวันนี้ว่า สถานที่ในกทม.ที่จะอนุญาตให้ติดป้ายหาเสียงได้จะมีที่ใดบ้าง สถานที่ส่วนใหญ่ที่จะให้ติดก็เป็นที่สาธารณะและที่ราชการทั่วไป ยกเว้นบางที่ เช่น ตามสะพานลอย, ทางเข้า-ออกซอยต่างๆ และโดยเฉพาะพื้นที่ของเอกชนที่จะไม่อนุญาตให้ติดป้ายหาเสียงเด็ดขาด ทั้งนี้ผู้สมัครส.ส.เขตหนึ่งคนจะติดป้ายหาเสียงนี้ได้ไม่เกินสองเท่าของหน่วยเลือกตั้งต่อเขตเลือกตั้ง เช่น ในเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครส.ส.เขตลงมีหน่วยเลือกตั้ง 100 หน่วย ผู้สมัครก็ติดป้ายได้ไม่เกิน 200 ป้าย และขนาดของป้ายต้องอยู่ที่ 130x245 เซนติเมตร
+++มติพรรคพลังประชารัฐ เสนอ 3 รายชื่อบุคคลที่จะอยู่ในบัญชีนายกฯ ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2.นายอุตตม สาวนายน 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ แต่ไม่ได้เรียงลำดับว่าชื่อใดอยู่ก่อนหลัง โดยเลือกตามความเหมาะสม ส่วนจะมีการตอบรับหรือไม่ ก็ต้องรอดูหลังจากนี้ ทั้งนี้ ทั้ง 3 ชื่อเป็นการเสนอโดยสมาชิกทั่วประเทศ
+++มีรายงานว่าในวันที่ 1 ก.พ.นี้ แกนนำพรรคและคีย์แมนพรรค จะเดินทางไปเรียนเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะดูช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงพรรคจะส่งรายชื่อนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในวันที่ 8 ก.พ. ด้วย
+++รายงานข่าวจากพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เปิดเผย การจัดลำดับว่าที่ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค จะอยู่ในลำดับที่ 1 และ 2 ขณะที่ลำดับที่ 3 เป็นน.ส.วรรณวิภา ไม้สน เลขาธิการสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ และกรรมการบริหารสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้เสนอนโยบายรัฐสวัสดิการของอนค.
+++นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยืนยัน นโยบายของพรรคทุกนโยบายผ่านการกลั่นกรองของคณะทำงานนโยบายมาเป็นเวลายาวนาน ไม่เคยลอกนโยบายใคร
+++นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เปิดเผยว่า พรรคได้ออกแถลงการณ์มีมติไม่เสนอ 3 รายชื่อในบัญชีที่พรรคจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะทางพรรคทราบดีว่าเราไม่ใช่พรรคใหญ่ที่จะมีคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือมากพอ ที่จะสามารถผลักดันให้รายชื่อนายกฯที่พรรคเสนอนั้นขึ้นมาเป็นนายกฯได้ ขอเลือกที่จะมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับปัญหาของประชาชน
+++เช้านี้ นายกฯ เป็นประธานในการรับมอบสมุดปกขาวนโยบายเศรษฐกิจฐานรากสู่แนวทางการปฏิบัติ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย” และเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
+++นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในวันที่ 31 มกราคม จะมีการประชุมนัดแรกของคณะอนุกรรมการพิจารณา กำกับ มาตรการยา เวชภัณฑ์ บริการทางการแพทย์ และบริการสถานพยาบาล โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงองค์กรภาคสังคม ซึ่งในครั้งแรก จะเป็นการหารือถึงข้อมูล ข้อเท็จจริงของราคายาและค่าบริการต่างๆ ว่าเกิดจากอะไรบ้าง สมเหตุสมผลอย่างไร จากนั้นจะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปแนวทางร่วมกัน เพื่อนำไปปฏิบัติได้จริง เช่น เรื่องผลักดันให้คนไข้นำใบสั่งยาทางการแพทย์ออกไปซื้อนอกโรงพยาบาลได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีทางเลือก หรือการกำหนดรายการยาจำเป็นที่ใช้ทั่วไปให้มีราคาที่ใกล้เคียง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยหารือว่ามียาเป็นหมื่นรายการก็น่าจะเริ่มจากพันรายการก่อน แล้วเผยแพร่ให้ประชาชนได้รู้เพื่อเป็นทางเลือก เป็นต้น การหารือครั้งแรกจะรู้ว่าหลักการและแนวทางที่จะใช้ดูแลร่วมกันเป็นอย่างไร
+++เศรษฐกิจใกล้ตรุษจีน นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมและค้าภายในจังหวัด ออกตรวจสอบภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะสินค้าสำหรับการเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งกำกับในเรื่องการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าที่ชัดเจน และไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินจริงจนกระทบต่อประชาชน โดยในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ จะนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่และตรวจสอบภาวะราคาสินค้าในย่านเยาวราช ร้านค้าทอง และตลาดยิ่งเจริญ เพื่อตรวจดูราคาอาหารสด อาหารปรุงสำเร็จต่างๆ
+++จากการสำรวจหมู เป็ด ไก่ ไข่ไก่ และผลไม้ ยอดนิยมสำหรับการเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน พบว่า ผู้ค้าระบุว่าไม่น่าจะปรับราคาได้เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดีนัก บางส่วนลดปริมาณการซื้อ และครอบครัวรุ่นใหม่เป็นครอบครัวเล็ก การซื้อสินค้าจึงมีขนาดที่เล็กลง โดยเฉพาะกระดาษไหว้เจ้า หลังจากกระแสความวิตกเรื่องฝุ่นละอองในอากาศสูงที่ไทยประสบในขณะนี้ ทำให้บางครอบครัวลดการเผากระดาษและจุดธูป หันมาใช้เครื่องไหว้แบบไฟฟ้าแทน ทำให้คาดการณ์ยอดซื้อกระดาษไหว้เจ้าในตรุษจีนปีนี้อาจลดลงในบ้างพื้นที่
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ ปิดที่ 54.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ ปิดที่ 61.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สหรัฐฯคว่ำบาตรรัฐวิสาหกิจน้ำมันเวเนซุเอลา “พีดีวีเอสเอ” เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงก่อความวุ่นวายแก่อุปทานพลังงานโลก
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกจากความเห็นรอมชอมในถ้อยแถลงของธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) รวมถึงรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดหมายของแอปเปิลและโบอิ้ง ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 434.90 จุด ปิดที่ 25,014.86 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 41.05 จุด ปิดที่ 2,681.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 154.79 จุด ปิดที่ 7,183.08 จุด คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณจะใช้แนวทางอย่างระมัดระวังในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด แถลงว่า กรณีของการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย
+++ส่วนราคาทองคำ ปรับขึ้นอีกเล็กน้อย แต่แตะระดับสูงสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมปีก่อน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,309.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แฟ้มภาพ