นายแดน โคตส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ของสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการประเมินภัยคุกคามทั่วโลก (The Worldwide Threat Assessment report) ที่ระบุว่าเกาหลีเหนือไม่มีท่าทีว่าจะยุติโครงการนิวเคลียร์ตามที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คาดหวังไว้ โดยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น นายโคตส์ ร่วมด้วยหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภา และเปิดเผยรายงาน ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือไม่มีเจตนาจะทำลายอาวุธนิวเคลียร์ที่มีอยู่ในคลังอาวุธ ขณะที่พยายามให้มีการเจรจาเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์ เนื่องจากเกาหลีเหนือมีความเห็นว่า อาวุธนิวเคลียร์คืออาวุธที่จะทำให้ประเทศอยู่รอด โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ มีกำหนดประชุมนัดที่ 2 กับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ หลังจากที่การประชุมครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ไม่มีความคืบหน้าในทางปฏิบัติ
นอกจากนี้ในรายงานยังระบุด้วยว่า อิหร่านไม่ได้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ อย่างที่ประธานาธิบดี ทรัมป์นำมาใช้เป็นข้ออ้างในการออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แต่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ตลอดจนอาวุธต่อต้านดาวเทียมจากจีนกับรัสเซียกำลังทำให้มีความกังวลเพิ่มมากขึ้น โดยจีนกำลังเพิ่มบทบาทการเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การทหาร ขณะที่รัสเซียมีแนวโน้มขยายอิทธิพลและอำนาจเหนือพื้นที่ยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯในหลายภูมิภาค
...