รอยเตอร์ รายงานว่า นายพุทธิซาการ์ ลามิชฮาเน หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของเนปาลเปิดเผยผลสอบสวนว่า ข้อมูลจากกล่องดำที่บันทึกเสียงในห้องนักบินและพยานที่เห็นเหตุการณ์บ่งชี้ว่า ภาวะความเครียดและหงุดหงิดอย่างรุนแรงจากปัญหาส่วนตัวของกัปตันของเครื่องบินของยูเอส-บังกลา แอร์ไลน์ ของบังคลาเทศ ที่ประสบอุบัติเหตุในกรุงกาฐมาณฑุ ของเนปาล เมื่อวันที่ 13 มีนาคมปีที่แล้ว คือสาเหตุหนึ่งทำให้เครื่องบินบินเลยรันเวย์ก่อนไถลไปยังสนามหญ้าแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน ขณะลงจอด ทำให้ไฟลุกไหม้เครื่องบิน มีคนเสียชีวิต 51 ศพ จากจำนวนคนบนเครื่องบินทั้งหมด 71 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตรวมถึงกัปตันและนักบินร่วม ซึ่งเป็นผู้หญิงวัย 25 ปี นับเป็นอุบัติเหตุทางเครื่องบินครั้งร้ายแรงที่สุดของเนปาลในรอบ 26 ปี
รายงานผลสอบสวน ตั้งข้อสังเกตว่า กัปตันมีความหงุดหงิด เนื่องจาก รู้สึกน้อยใจว่า เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ได้ขึ้นเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติในวันนั้น สงสัยในเรื่องความรู้ ความสามารถของเขาในการทำหน้าที่ครูฝึกสอนการบิน
ส่วนสาเหตุอื่นๆคือความบกพร่องในการทำงานของกัปตันและนักบินร่วมกรณีไม่ทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนการปฏิบัติงานในช่วงเกิดปัญหาวิกฤติ เช่นการขับเครื่องบินในระดับต่ำและการลงจอดไม่ตรงรันเวย์ในสนามบิน ซึ่งอยู่ใกล้เทือกเขาสูง ซึ่งโดยปกตินักบินต้องใช้ประสบการณ์และมีสติในการทำงาน ที่สำคัญคือนักบินหญิงดังกล่าว มีประสบการณ์การบินเพียง 390 ชม.และไม่มีประสบการณ์ในการนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินนั้นมาก่อน
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters