สำนวนถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาถึง สนช.แล้วเมื่อวานนี้ (14 ต.ค.)นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ตามกรอบเวลาจะต้องบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม สนช.ภายใน 30 วัน โดยจะพิจารณาแยกจากสำนวนของนายนิคม ไวยรัชพานิช และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ซึ่ง ที่ประชุมวิป สนช.เห็นว่ามีอำนาจรับไว้พิจารณา แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม สนช.ในวันศุกร์ที่ 17 ต.ค.นี้ ว่าจะมีมติรับไว้พิจารณาหรือไม่
ในอดีตมักมีการอ้างถึงประเพณีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยในรัฐธรรมนูญ ที่จะเกิดปัญหาด้านการตีความ ซึ่งในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 ได้อุดช่องว่างดังกล่าวแล้ว โดยมาตรา 6 ได้บัญญัติไว้อย่างชัดเจน ให้สนช.ทำหน้าที่ สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา หากการยื่นเรื่องถอดถอนมายัง สนช.นั้น หากพบว่าสำนวนนั้นๆ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีอำนาจพิจารณา สนช. ก็ต้องมีอำนาจในการพิจารณาเช่นกัน”