ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเสียงข้างมาก 128 ต่อ 1 คะแนนเห็นสมควรประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติทะเบียนราษฎรเป็นกฎหมาย ซึ่งมีสาระสำคัญคือ การปรับปรุงวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎรในเรื่องต่างๆ เพื่อให้นายทะเบียนสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยความเป็นธรรม และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนยิ่งขึ้น และกำหนดสิทธิในการยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทยของเด็กและบุคคล เพื่อเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเด็กที่ไร้รากเหง้าที่ไร้รัฐและไร้สัญชาติในประเทศไทย ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและหลักสิทธิมนุษยชนในระหว่างการพิจารณาและลงมติร่างพระราชบัญญัติเป็นรายมาตรา ปรากฏว่าได้เหลือสมาชิก สนช. ที่เข้าร่วมประชุมในห้องประชุมจำนวนไม่มาก และทำให้การประชุม สนช. เกือบต้องยุติลง เพราะองค์ประชุมไม่ครบ
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 ในฐานะประธานในที่ประชุม กล่าวกลางที่ประชุมว่า ทันทีที่สมาชิก สนช. ที่เข้าไปประชุมคณะกรรมาธิการระหว่างการประชุม สนช. เมื่อได้ยินเสียงหรือสัญญาณให้มาลงมติแล้ว ขอความร่วมมือให้พักการประชุมคณะกรรมาธิการก่อน เพราะตอนนี้องค์ประชุมมีจำนวนลดลงไปเรื่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ สนช. มีปัญหาในเรื่ององค์ประชุม จึงอยากขอความร่วมมือจากสมาชิก สนช. ทุกคน
หลังจากนั้น ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติในวาระที่ 3 เห็นสมควรประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 126 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง