กรณีที่ นายเอกวิชช์ เกษเจริญ ลูกค้าธนาคารกรุงไทย สาขาสวรรค์วิถีและปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ร้องเรียนว่าถูกปลอมลายมือชื่อในเอกสารประกอบการถอนเงินจำนวนกว่า 8 ล้านบาทนั้น ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ ธนาคารกรุงไทย แจ้งว่า ลูกค้ายื่นฟ้องธนาคารในคดีความแพ่งต่อศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิจารณาและมีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 ต่อมาลูกค้าได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาและมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 โดยขณะนี้นายเอกวิชช์ ได้ยื่นฎีกา และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเมื่อศาลมีคำพิพากษาเป็นเช่นใด ธนาคารน้อมรับปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เนื่องจากศาลได้วินิจฉัยตามพยานเอกสารและหลักฐานต่างๆ รวมทั้งพยานบุคคลที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำสืบพยานแสดงต่อศาล ซึ่งทุกฝ่ายไม่ควรล่วงละเมิดคำตัดสินของศาล
ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย ได้ชี้แจงกระบวนการตรวจสอบและให้ข้อมูลกับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และให้คำมั่นใจว่าธนาคารกรุงไทย ไม่เคยละเว้นการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต่อธนาคาร ทั้งนี้ ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารยึดมั่นในการปฏิบัติงานตามหลักบรรษัทภิบาล ดำเนินงานอย่างมืออาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์และโปร่งใส ให้บริการลูกค้าตามแนวทางของหลัก Market Conduct
...
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ ธนาคารกรุงไทย