กรณีที่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้ผู้สมัครส.ส.ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภงด.) ย้อนหลังไป 3 ปี ซึ่งอาจคาบเกี่ยวกับช่วงนี้ที่เป็นช่วงชำระภาษี
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ตามกฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครส.ส. ต้องชำระภาษีถึงก่อนปีที่จะมีการเลือกตั้ง จึงแปลว่าผู้สมัครส.ส. ต้องยื่นแบบชำระภาษีภงด.ปี 2559, 2560, 2561 ซึ่งภาษีภงด. ประจำปี 2561 ก็สามารถยื่นได้แล้วและให้นำหลักฐานมาแสดงต่อกกต.ภายในวันรับสมัครผู้สมัครส.ส. จึงมองว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา
ส่วนพรรคการเมืองสามารถหาเสียงได้แล้ว โดยขณะนี้ก็มีบางพรรคเริ่มแจ้งชื่อผู้ช่วยหาเสียงมายังต่อกกต.แล้ว เพียงแต่ขอให้การหาเสียงอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ทั้งค่าใช้จ่ายต้องไม่เกินจากที่กำหนดไว้ ซึ่งค่าใช้จ่ายการหาเสียงเริ่มคิดตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งประกาศใช้ พร้อมระบุถึงการแยกบุคคลที่เป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมืองออกจากผู้ช่วยหาเสียงของพรรคว่าจะต้องมีการตรวจสอบและป้องกันเพื่อไม่ให้กระทบกับตัวงบประมาณในการหาเสียง
ด้านการหาเสียงออนไลน์สามารถทำได้แล้ว พรรคใดที่ทำอยู่ก็ไม่ต้องลบข้อมูลออก แต่ให้ส่งข้อมูลมาให้กกต. รับทราบ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์และปัญหาต่าง ๆ ที่อาจตามมาภายหลัง ขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดแจ้งขอหาเสียงออนไลน์มายังกกต. และในสัปดาห์หน้า กกต. จะเข้าพบกับไลน์ ประจำประเทศไทย เพื่อขอความรู้เรื่องการตรวจสอบหาเสียงออนไลน์ ซึ่งก็ฝากพรรคการเมืองทำให้ถูกต้อง
เลขาธิการกกต. ยังระบุถึงการติดป้ายหาเสียงว่าหน่วยงานในสังกัดกกต. กำลังพิจารณาอยู่ ส่วนการจัดดีเบตพรรคการเมือง จะชัดเจนหลังจากครบกำหนดวันรับสมัครผู้สมัครส.ส. ที่จะทราบว่าแต่ละพรรคจะส่งผู้สมัครส.ส. เท่าใด จึงจะกำหนดแนวทางการจัดดีเบตได้ต่อไป เช่นเดียวกับการพิมพ์บัตรเลือกตั้งก็ต้องรอดูหลังจากการรับสมัครผู้สมัครส.ส. แล้วเสร็จ แต่ยืนยันว่าบัตรจะเสร็จทันก่อนเลือกตั้งแน่นอน แม้ขณะนี้ยังไม่ได้ลงนามว่าจ้างกับบริษัทผู้รับพิมพ์บัตรก็ตาม

โดยเช้าวันนี้นาย อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้มาเป็นประธานกล่าวมอบนโยบายและมอบรางวัลแก่ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย(ศส.ปชต.) ดีเด่น ภายใต้โครงการสร้างจิตสำนึกพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ที่จัดโดยสำนักพัฒนาเครือข่ายการเลือกตั้ง ของกกต. โดยประธานกกต. กล่าวมอบนโยบายว่า ในอนาคตอันใกล้ประเทศไทยจะมีงานใหญ่ 2 งาน คือ งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในช่วงเดือนพฤษภาคม และการเลือกตั้งใหญ่ทั่วไปวันที่ 24 มีนาคม 2562 ก็เชื่อว่าศส.ปชต. จะมีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมการเลือกตั้ง อย่างที่เคยมีส่วนช่วยในการรณรงค์ให้คนมาออกเสียงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ส่วนตัวขอขอบคุณกกต. ชุดที่แล้ว ที่ช่วยสร้างประชาธิปไตยไทยให้เข้มแข็งมากขึ้นพร้อมยืนยันว่ากกต. จะทำงานเชิงรุกเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยแม้จะอยู่ในช่วงที่ไม่มีการเลือกตั้งก็ตาม
..
ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร