ก.แรงงาน พัฒนาทักษะด้านฝีมือให้จนท.การท่าเรือ ยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์

การพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพ วันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นาย จรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายสมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) ได้เป็นประธานและสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาบุคลากรและบุคคลทั่วไป ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จําเนียร ผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) และนายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นผู้ลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว

พล.ต.อ.อดุลย์ ระบุว่า อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ครอบคลุมกิจกรรมขนส่งหลายอย่าง มีแรงงานอยู่ 2,850,000 คน แต่ก็ต้องการแรงงานที่มีทักษะฝีมือและการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านการขนส่ง อีกทั้ง รัฐบาลมีเป้าหมายผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอินโดจีน กระทรวงแรงงาน จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พัฒนากำลังคนร่วมกับกทท. ในด้านโลจิสติกส์เป็นระยะเวลา 5 ปี ในพื้นที่การท่าเรือ 5 แห่ง ประกอบด้วย ท่าเรือกรุงเทพ, ท่าเรือแหลมฉบัง, ท่าเรือเชียงของ, ท่าเรือเชียงแสน และท่าเรือระนอง มุ่งเป้าดำเนินการปีละ 1,000 คน เพื่อร่วมกันฝึกอบรมให้กับบุคลากรของกทท. ที่ศูนย์ฝึกอบรมขับใช้เครื่องมือทุ่นแรง หลักสูตรทิศทางการดำเนินการธุรกิจท่าเรือในอนาคต โดยมีผู้เข้ารับการอบรม 128 คน ซึ่งก็เชื่อว่าการลงนามในวันนี้จะมีส่วนช่วยพัฒนาบุคลากรให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพและสามารถรองรับความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาบุคลากรฯดังกล่าว กทท. ได้ให้บริการหลักสูตรพัฒนาทักษะเฉพาะด้านเกี่ยวกับการปฏิบัติงานท่าเรือ เช่น หลักสูตรการฝึกขับเครื่องมือทุ่นแรง, หลักสูตรการดับเพลิงขั้นต้น, หลักสูตรการจัดการสินค้าอันตราย เป็นต้น ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวได้รับความชื่นชมในมาตรฐานการฝึกอบรม และเป็นที่ต้องการของสถานประกอบการภายนอก  อีกทั้งยังเป็นการตอบแทนสังคม(CSR) ให้กับชุมชนรอบท่าเรือทั้งในกรุงเทพและภูมิภาคในลักษณะการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้กับบุคคลทั่วไป ซึ่งจะเป็นการพัฒนาบุคลากรและบุคคลทั่วไปให้มีความรู้ความสามารถและฝีมือที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ทั้งตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลที่ต้องการแรงงานที่มีฝีมือเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศด้วย

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร