ก่อนการเดินทางไปประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 (Asia-Europe Meeting-ASEM) ที่อิตาลี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางไปในครั้งนี้คงจะพูดคุยในเรื่อง การค้า ,เศรษฐกิจ ,ความมั่นคง เพื่อให้มีการเชื่อมโยง และสร้างความเข้มแข็งในทุกมิติ โดยในส่วนของประเทศไทยก็จะต้องเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจในเชิงรุก เพื่อส่งเสริมการลงทุนในภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกให้มีความเข็มแข็ง และให้ได้คุณภาพดีโดยจะชะลอการนำเข้าสินค้าที่ในประเทศมีอยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในช่วงที่จะเดินทางไปประชุมที่อิตาลี ก็ไปทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง และขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลบ้านเมือง ให้สงบ ไม่เกิดความขัดแย้ง ซึ่ง รัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหาในทุกๆเรื่องอย่างเต็มที่ ถึงแม้บางเรื่องอาจจะไม่สามารถตอบสนองประชาชนได้ทุกคน
ส่วนสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น เป็นปัญหาที่เกิดในบางพื้นที่เท่านั้น ขณะนี้รัฐบาลก็จะเน้นเรื่องการค้าการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เดินหน้าต่อไป โดยจะมีการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ในการแปรรูปยางพาราดิบ เพื่อทำให้เพิ่มมูลค่า และแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ โดยจะมีการเจรจากับบริษัทผลิตยางรถยนต์ และทางกองทัพ ให้ใช้ยางพาราดิบภายในประเทศให้มากขึ้น รวมทั้งจะเน้นการส่งเสริมให้ใช้สินค้าภายในประเทศ เช่น ผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าว,ยางพารา,อ้อย
เรื่องโรดแมปการทำงานของรัฐบาล ขณะนี้ก็ได้กำหนดไว้แล้ว โดยขอให้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพื่อจะได้มีการเลือกตั้งในครั้งใหม่ ที่มาจากรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ และสามารถปฏิรูป ได้ทั้ง 11 ด้าน ส่วนที่เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้พบกับเอกอัครราชทูตอังกฤษ และเมียน์มาร์ ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยทางการไทย ก็ได้รายงานสถานการณ์ให้ต่างประเทศรับทราบมาโดยตลอด ซึ่งหากมีข้อสงสัยก็สามารถพร้อมที่จะชี้แจงและให้เข้ามาสังเกตการณ์ได้
วิรวินห์