สถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งทางศาสนาแน่นอน เพราะโอไอซี หรือ ผู้แทนประเทศมุสลิม ได้จัดคณะทำงานเข้ามาเยี่ยมเยียนในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้แทน OIC ยืนยันว่าไม่ใช่ความขัดแย้งทางศาสนาเช่นเดียวกัน ส่วนตัว มองว่าเป็นความขัดแย้งที่ไม่ใช่รูปแบบเดิมที่เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศ พร้อมกับระบุว่า สถานการณ์ไม่น่าจะบานปลาย ขอประชาชนช่วยกัน อย่าทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามเป้าประสงค์ของผู้ก่อการร้ายที่จะเป็นการก่อสงครามแย่งชิงทางความคิด ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล พร้อมระบุว่า จุดอ่อนไหวที่สุดมีจำนวนมาก รวมถึงสถานประกอบการทางธุรกิจ ฐานทัพทหาร ก็ยังเป็นพื้นที่เสี่ยงโดนโจมตี เพราะฉะนั้นต้องหามาตรการทางการข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจให้เหมาะสม
ส่วนการออกมาตรการคุมเข้มพื้นที่ นายกรัฐมนตรี มองว่า การกำหนดมาตรการออกมาเป็นผลบังคับใช้ที่เป็นไปได้ยาก เพราะส่วนหนึ่งประชาชนที่ไม่เดือดร้อนก็กลัวจะไปกระทบสิทธิ์ ซึ่งหากประชาชนต้องการสิทธิและเสรีภาพมาก ก็จะมีความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ได้ออกแถลงการณ์ไปแล้ว ขออย่าให้ใครมาบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคใต้ จะเห็นได้ว่าในช่วงนี้ความรุนแรงของสถานการณ์เพิ่มขึ้น ต้องไปดูให้ชัดเจนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองหรือเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือไม่ ทุกวันนี้มีหลายกลุ่มหลายฝ่ายที่สร้างสถานการณ์ให้เกิดเหตุความรุนแรง เป็นการกระทำที่ต้องการยกระดับตัวเอง รัฐบาล พยายามหามาตรการทางกฎหมายและการพูดคุยสันติสุขที่ต้องทำร่วมกัน และต้องให้ต่างประเทศเห็นว่าไทยไม่ได้ใช้กำลังเพียงอย่างเดียว อีกทั้งสหประชาชาติ หรือ UN ก็กำลังจับตาอยู่
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี