*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาในประเทศ โดยกำหนดให้บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ สามารถนำเงินที่จ่ายเป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาภายในประเทศ ให้แก่ลูกจ้าง  หรือรายจ่ายที่จ่ายให้กับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเพื่อการอบรมสัมมนา มาหักลดหย่อนภาษีได้ร้อยละ 100  นอกจากนี้ยังกำหนดให้นักท่องเที่ยวนำเงินที่จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือที่จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000 บาท มาหักลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน โดยทั้งหมดมีผลบังคับใช้ถึง 31 ธ.ค. 2558 นี้ เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูการท่องเที่ยวและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง แม้ว่ารัฐต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดผลดีต่อธุรกิจนำเที่ยวในประเทศประมาณ 3,000 ล้านบาท

+++นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า มาตรการครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ โดยเฉพาะการวางแผนท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.2557- 4 ม.ค. 2558 ที่ขณะนี้เริ่มมีคนไทยวางแผนไปท่องเที่ยวต่างประเทศบ้างแล้ว จากนี้อาจเปลี่ยนแผนและเลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศแทน เพราะสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้

+++ความคืบหน้าการตรวจสอบคุณภาพข้าว ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ เปิดเผยว่า ภายในวันนี้จะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จ มีการประสานการทำงานกับกระทรวงพาณิชย์ มาโดยตลอดและรับทราบถึงสถานการณ์ รวมถึงตัวเลขต่าง ๆ เป็นอย่างดี พร้อมรายงานผลการทำงานให้ที่ประชุมครม.รับทราบ โดยยืนยันจะดำเนินการด้วยความรอบคอบ ครบถ้วน  ไม่รีบจนขาดความประณีต หากไม่ทันในกรอบเวลาที่กำหนดไว้จะพยายามไม่ให้ล่าช้ามาก จากนั้นจะนำเสนอต่อประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต่อไป ปัญหาที่จะทำให้ล่าช้า ติดขัด คือโกดังบางแห่งไม่ยอมจัดกองข้าวให้ตรวจสอบ โดยปล่อยกองข้าวไม่เป็นระเบียบ ทำให้นับจำนวนไม่ได้ในบางจุด หากโกดังใดยังขาดความรับผิดชอบ คณะทำงานของกระทรวงพาณิชย์และคณะทำงานตรวจสอบคุณภาพข้าวจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า กำลังดูการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าว ซึ่งกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการรองรับกรอบการช่วยเหลือการทำนาปีและติดตามดูแลมาตรการเดิมที่ออกไปแล้วคือการเตรียมเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ต้องไม่มีการทุจริตถ้ามีการทุจริตเกิดขึ้นต้องมีคนรับผิดชอบ ได้ตั้งคณะกรรมการโดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเป็นประธานในการหามาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนกับเกษตรกร และอยากให้ทุกหน่วยงานรายงานผลการดำเนินการทุกๆ 3 เดือนทั้งการผลิตส่งเสริมต้นทุน ลดต้นทุนอุปสงค์อุปทาน และการเปิดตลาดภายนอกจะทำอย่างไร

+++แนวทางเร่งด่วนรับมือภัยแล้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมดำเนินแผนปฏิบัติการ (แอ็กชั่น แพลน) บริหารจัดการน้ำของประเทศให้เป็นเอกภาพในทุกมิติ ภายใต้งบประมาณประจำปี 2558 วงเงินประมาณ 45,972.75 ล้านบาท วันนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จะแถลงแผนการดำเนินงาน

+++โครงการแจกคูปองทีวีดิจิตอล พบร้องเรียนหลายพื้นที่ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า หลังจากสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เริ่มแจกคูปองทีวีดิจิตอลมูลค่าฉบับละ 690 บาท ล็อตแรก 4.6 ล้านฉบับ ทางไปรษณีย์ไปยัง 21 จังหวัด ขณะนี้ เครือข่ายฯ ทั่วประเทศได้รับแจ้งปัญหาในหลายพื้นที่  โดยเฉพาะกระบวนการเรียกเก็บบัตรประชาชน จากกลุ่มผู้นำชุมชนที่อาจร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตกล่อง เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับคูปองนำมาแลกกล่องรับสัญญาณ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายส่อทุจริต จึงต้องการให้สำนักงาน กสทช. เข้มงวดการทำตลาดกล่องของผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการ และผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่ กสทช.รับรองมาตรฐานสินค้า

+++นางสาวชลดา บุญเกษม กรรมการเขตภาคกลาง อนุกรรมการด้านสื่อและโทรคมนาคม ของคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเครือข่ายผู้บริโภคว่าใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องในการแจกคูปอง พบว่ามี 3 อำเภอ คือ พระนครศรีอยุธยา บางบาล  เสนา ผู้นำชุมชนเรียกเก็บบัตรประชาชนในช่วงก่อนแจกคูปอง และหลังจากเริ่มแจกคูปองในวันที่ 10 ต.ค. ได้เรียกเก็บคูปองโดยแจ้งว่าจะนำกล่องทีวีดิจิตอลมาแจกให้ในภายหลัง เช่นเดียวกับที่ได้รับการร้องเรียนในพื้นที่ ชุมชนเขตหนองจอก  และคันนายาว

+++ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. เปิดเผยว่า สำนักงานได้ลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี อ.ดอนเจดีย์ และอ.ด่านช้างเพื่อตรวจสอบสัญญาณโครงข่ายทีวีดิจิตอลในพื้นที่แจกคูปองในล็อตแรก พบว่าประชาชนรับรู้ ข้อมูลไม่มาก ดังนั้นสำนักงานจะปรับ แผนการประชาสัมพันธ์ และประเมินผลการรับรู้ของประชาชนต่อเนื่อง และเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมเก็บบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อรวบรวมไปแลกกล่องว่าไม่สามารถกระทำได้ หากพบผู้ประกอบการกระทำดังกล่าว จะตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการและชะลอการเบิกจ่ายทันที และเตรียมพิจารณาปรับเงื่อนไขการมอบฉันทะให้ 1 คนสามารถใช้คูปองแทนได้ 3 สิทธิ เป็น 1 คน ใช้สิทธิคูปอง 1 สิทธิเท่านั้น

++++ตั้งแต่เช้า 05.00 น. ปตท.และบางจากปิโตรเลียม จะปรับลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลิตรละ 60 สตางค์ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง

+++คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ร่วมกับสถาบันไทยพัฒน์ แถลงผลการประเมินความคืบหน้าในเรื่องการป้องกันการมีส่วนเกี่ยวข้องกับคอร์รัปชั่นของบริษัทจดทะเบียนไทย ณ สำนักงาน ก.ล.ต.

+++ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาโค้งสุดท้ายปี 2557 ภาพรวมเศรษฐกิจไทย

+++ในเวลา 13.00 น. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด แถลงภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย นำโดย นายเอ็ดเวิร์ด ลี หัวหน้าทีมวิจัยอาเซียนของธนาคาร

+++ธนาคารกรุงเทพ สัมมนา วางแผนภาษีมรดกและส่งมอบความมั่งคั่ง นายสมชาย แสงรัตนมณีเดช ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและคดี กรมสรรพากรบรรยายเนื้อหาและรายละเอียดภาษีมรดก

+++กรณี น.ส.ปรัศนียา ศรีสุทธิกุล อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 15/35 หมู่ 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนซ์เงิน เลขทะเบียน กจ 5203 ขอนแก่น พุ่งชนแท่งแบริเออร์ ตรงจุดสิ้นสุดการก่อสร้างทางยกระดับโทลล์เวย์ ดอนเมือง บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า ตรงข้ามโรงกษาปณ์ หมู่ 1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำให้รถตกลงมาด้านล่างเสียชีวิต ญาติน.ส.ปรัศนียา มารับศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.ขอนแก่น

+++ดร.ณัฐกานต์ ไวยเนตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนการเกิดอุบัติเหตุด้านการจราจร สำนักระบาด กรมควบคุมโรค พร้อมนายศุภชัย มุ่งประสพสุขี หัวหน้าหมวดการทางธัญบุรี ที่ 2 แขวงการทางปทุมธานี และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ปทุมธานี ขึ้นไปบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบสาเหตุ   ดร.ณัฐกานต์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มาหาสาเหตุของอุบัติเหตุ แต่มาหาความน่าจะเป็นในการเกิดอุบัติเหตุว่าเป็นที่ คน รถ หรือถนน ข้อผิดพลาดต่างๆ ว่าทำไม่รถคันดังกล่าวถึงวิ่งเข้ามาในช่องทางที่ปิดได้ และเมื่อคนขับรถเห็นแท่งแบริเออร์ แล้วทำไมไม่เบรก หรือรถอาจขัดข้อง ต้องรวบรวมองค์ประกอบทั้งหมดเพื่อหาต้นตอของ การเกิดเหตุ

+++ร.ต.ท.ปริยพล แสนเสน พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า เก็บวัตถุพยานหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบทั้งหมดเพื่อสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งยังไม่ระบุสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ แต่คาดว่าน่าจะเป็นการสับสนในเส้นทาง หรืออาจเป็นการฆ่าตัวตายก็เป็นได้ ต้องรอหลักฐานจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง

+++สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 15-26 ต.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์