นิคเคอิ เปิดเผยรายงานของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอไอเอฟ ที่เป็นการคาดการณ์ว่า หนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียแตะที่ระดับร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ว่ามีการดำเนินนโยบายอนุรักษ์นิยมด้านการคลังน้อยลง แต่การที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นบ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากเศรษฐกิจโลกเกิดวิกฤติ อย่างไรก็ตามหนี้ของรัฐบาลในประเทศเกิดใหม่เอเชีย ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 223.1 ของจีดีพี และสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 100.8 ต่อจีดีพี
.jpg)
นายเฟรเดอริก นอยมันน์ หัวหน้าร่วมฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจเอเชียของเอชเอสบีซี อธิบายว่าการที่หนี้สาธารณะอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ทำให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อลดความเสียหายได้
ทั้งนี้ ไอไอเอฟ ระบุว่า ระดับหนี้สินทั่วโลกแตะที่ 244 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ส่วนหนี้เอกชนที่ไม่ใช่ภาคการเงินในเศรษฐกิจเกิดใหม่เอเชียเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 124 ของจีดีพี เทียบกับร้อยละ 101.6 ในญี่ปุ่น และร้อยละ 72.6 ในสหรัฐ
..
asia.nikkei.com, the Institute of International Finance
ข่าวทั้งหมด