+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุมอาเซม ที่ประเทศอิตาลี ว่าที่ประชุมเตรียมเวลาให้พูด 3 นาที จะพูดเกี่ยวกับความร่วมมือของเรากับของโลกว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาสนใจเรื่องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ว่าจะร่วมมือกันอย่างไร เมื่อมีภัยพิบัติจะทำอย่างไร เรื่องปฏิรูปปฏิวัติเขาไม่สนใจเท่าไหร่หรอก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะหารือทวิภาคีกับ 4-5 ประเทศ และเป็นประเทศในทวีปยุโรป 2-3 ประเทศ
+++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า นายกฯ ฝากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ดูแลเรื่องสื่อโซเชียลมีเดีย ที่มีการใช้งานจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งประโยชน์และโทษ ถ้าไม่มีการดูแลให้ดี บางครั้งกระทบกับความมั่นคง จึงขอให้ ไอซีทีหารือกับกระทรวงอื่นๆ ว่าจะดูแลผู้ที่ใช้สื่อ โซเชียลอย่างไร และเรื่องของการอ้างแหล่งข่าวของสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อหลักที่ตรวจสอบที่มาไม่ได้ จะมีผลกระทบด้านความมั่นคงเช่นกัน โดยให้ลองไปกำหนดแนวที่ทางชัดเจน เพราะเมื่อไม่เป็นจริงอย่างที่แหล่งข่าวได้ให้ข่าวไว้ นายกฯถามว่าใครจะรับผิดชอบ
+++จากเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาโรงเรียนในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี 5 โรง และ อ.มายอ 1 โรง ได้รับความเสียหาย พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 ราย กำลังซักถามและตรวจหลักฐานจากรอยนิ้วมือและดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบกับพยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุว่ามีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุหรือไม่
+++นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เปิดภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 27 ต.ค. โดย กพฐ.จัดสรรเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 4แสนบาท แบ่งเป็นค่าจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน ค่าซ่อมแซมอาคารเรียนที่เสียหาย
+++พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ระบุว่า กลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มพูโลเก่า กำชับ ผบก.ภ.จ.ยะลา ผบก.ภ.จ.ปัตตานี และ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส วางมาตรการป้องกัน เหตุรุนแรง โดยจะลงพื้นที่ในวันที่ 20 ต.ค.
+++ส่วนเรื่องการติดตามหานายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ เสี่ยโจ้ นักธุรกิจผู้กว้างขวางในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลบหนีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือนของศาลจังหวัดปัตตานี ในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการและดวงตราประทับเข้าเมือง เชื่อว่า น่าจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว และน่าเป็นการหลบหนีโดยใช้เส้นทางทะเล จึงสั่งการให้ตรวจสอบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ หากพบมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นจะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เบื้องต้นยังเชื่อว่าเป็นเหตุเฉพาะหน้า ตำรวจคงไม่ได้ปล่อยให้หลบหนีหรือรับเงินอย่างที่มีข่าว
+++คดีฆาตกรรมนายเดวิด มิลเลอร์ และน.ส. ฮันนาห์ วิเทอริดจ์ สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายวินและนายซอ สองผู้ต้องหาชาวพม่าที่ร่วมก่อเหตุ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสาร นิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ไทย เปิดเผยว่า การประชุมพูดคุยระหว่าง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กับเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย และเอกอัครราชทูตเมียนมาร์ ประจำประเทศไทย ที่ประชุมได้ตกลงร่วมกัน 4 ประเด็น ได้แก่ ผบ.ตร.เพิ่มช่องทางติดต่อการประสานงานมากขึ้นให้ทางการอังกฤษและเมียนมาร์ ผบ.ตร.ส่งเอกสารรายละเอียดให้สถานทูตอังกฤษและเมียนมาร์ เรื่องความคืบหน้าในการดำเนินคดี ทางอังกฤษและเมียนมาร์ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์สืบสวนคดี เบื้องต้นตกลงในหลักการเกี่ยวกับผู้สังเกตการณ์ แต่ยังไม่หารือกันในรายละเอียด เพื่อเป็นช่องทางให้ทางการอังกฤษและเมียนมาร์ติดต่อ รับทราบข้อมูลโดยตรง หากทูตอังกฤษและเมียนมาร์มีคำถามเพิ่มเติม สามารถจัดประชุมในลักษณะเดียวกับวันนี้ได้อีก
+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาขอความร่วมมือไปชี้แจงก็ไม่เห็นว่าทางอังกฤษจะติดใจอะไร เพียงแต่เขาขอเวลาทำใจหน่อย เพราะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เร็ว จากเดิมที่คิดว่าไม่น่าจะจับได้ เพราะเห็นว่าคนเยอะ แต่พอได้อธิบายว่าเรามีขั้นตอนอย่างไร เขาก็รับได้ ส่วนที่กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเสนอขอให้ตำรวจอังกฤษเข้ามาช่วยเรื่องคดี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็มา ประเทศ ไทยใครมาก็ได้ แต่อย่าลืมว่าอะไรที่เป็น เรื่องของเราก็ต้องเป็นเรื่องของเรา
+++ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย ศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีนี้ อัยการได้นำพยานชาวพม่า 3 คน โดย 1 คน เป็นเพื่อนกับ2 ผู้ต้องหา ส่วนอีก 2 คนทำงานอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุมาสืบพยานต่อหน้าผู้ต้องหาทั้งสอง ก่อนจะสืบพยาน ทนายความจากสภาทนายความที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และเครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ ให้เป็นทนายให้กับ 2 ผู้ต้องหา ร้องขอให้ศาลเลื่อนการสืบพยานล่วงหน้าออกไปอีก 3-4 สัปดาห์ โดยระบุว่า เพิ่งจะได้เข้าพบกับผู้ต้องหาทั้งสองเป็นระยะเวลาสั้นๆ ทำให้ยังได้ข้อมูลที่ไม่เพียงพอ ที่สำคัญทางตัวแทนของเครือข่ายต้องการดูในเรื่องสิทธิตามกฎหมายอาญาที่ ผู้ต้องหาควรที่จะได้รับ อัยการ ชี้แจงว่า พยานอยู่บนเกาะเต่ามีความเคลื่อนย้ายอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าพยานจะหลบหนี เพราะพยานที่ทีมพนักงานสอบสวนมีเป็นพยานแวดล้อม ขณะที่ศาลชี้แจงว่า การสืบพยานล่วงหน้าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพยานต่างชาติ ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีที่เป็นคนละส่วนกัน ที่สำคัญสำนวนการสอบสวนอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของอัยการ ยังไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาล
+++นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการ และผังเมือง เปิดเผยกรณีที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) สรุปผลสอบเบื้องต้นกรณีไมโครโฟน ในห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ ทำเนียบว่า มีราคาส่วนต่างค่อนข้างมาก คตร.สรุปผลการตรวจสอบส่งไปยังนายกฯ และได้ส่งหนังสือมาถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ กับผู้รับเหมา
+++วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.)รายงานตัว ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น.
+++การตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สัดส่วนของคณะรัฐมนตรี( ครม.)ที่จะไปเป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นคนนอก จะเอารัฐมนตรีไปเป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวบังคับ และต้องเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อขอมติก่อน ส่วนของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จะเป็นคนในหรือคนนอกก็ได้ โดย คสช.จะเสนอ 6 คน เป็นประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ 1 คน และเป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ 5 คน ซึ่งเสนอไปพร้อมกัน ยังมีเวลาถัดไปจากวันที่ 21 ตุลาคมไปอีก 15 วัน ที่จะตกลงกัน
+++ด้านที่ประชุมวิป สนช.ได้วางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเข้ามาทำหน้าที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 5 คนตามสัดส่วนของ สนช. เบื้องต้นจะดำเนินการใน 2 รูปแบบได้แก่ 1.การทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิ และ 2.การเปิดรับสมัครให้กับ สนช.ที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่ง สนช.จะเลือกจากคนในที่เป็นสมาชิก สนช.ก่อนแล้วค่อยไปพิจารณาจากคนนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิก สนช. และเมื่อได้ตัวบุคคลเรียบร้อยทางวิป สนช.จะลงมติเลือกให้เหลือ 5 คนต่อไปในวันที่ 30 ต.ค.