*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

นายแพทย์บรูซ ไอล์เวิร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(ฮู) หน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตก จะพุ่งทะลุ 9,000คนในสัปดาห์นี้และการระบาดจะยังคงขยายตัวในกินี,เซียร์รา ลีโอน และไลบีเรียส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจนถึงวันนี้ ตั้งแต่รายงานการระบาดครั้งแรกในกินีเมื่อเดือนมี.ค.เพิ่มเป็น 4,447ศพแล้ว จากผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น8,914 คน ขณะที่ มีสัญญาณของอัตราการติดเชื้อช้าลงในหลายพื้นที่ที่มีการระบาดแต่นายแพทย์ไอล์เวิร์ด กล่าวว่า ขณะนี้ การระบาดของโรคแทรกซึมเข้าไปในหลายอำเภอหลายเมืองและหลายเขตมากกว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อนและกล่าวว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

+++รัฐบาลอังกฤษ เริ่มคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางจากแอฟริกาตะวันตกถึงสนามบินฮีโธรว์ ซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในกรุงลอนดอนแล้วเมื่อวันอังคารเพื่อควบคุมการระบาดของอีโบลา

+++ส่วนกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แถลงว่า สิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์การบินในภูมิภาคเอเชียก็จะเริ่มคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินชางงีเพื่อควบคุมการระบาดของอีโบลาเช่นกัน นับจากวันนี้ เป็นต้นไป ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของอีโบลาจะต้องถูกนำเข้าตรวจสอบในสถานที่ตรวจที่ทางเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ 

+++ขณะที่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้บริหารเฟซบุ๊ก และพริสซิลล่า ชาน  ภรรยา ได้บริจาคเงินช่วยเหลือจำนวน25ล้านดอลลาร์สหรัฐ(750ล้านบาท)ให้แก่ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐ เพื่อใช้สำหรับควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา หลังจากเดือนที่แล้ว นายพอล อัลเลน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟ ได้ประกาศบริจาคเงินจำนวน9ล้านดอลลาร์สหรัฐ(270ล้านบาท) เพื่อร่วมหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาเช่นกัน

+++รัฐบาลฟิลิปปินส์ จะขอควบ คุมตัวนาวิกโยธินอเมริกันที่ต้องสงสัยว่าฆาตกรรมนายเจฟฟรีย์ เลาเด สาวประเภทสองวัย 26 ปี ถูกรัดคอและกดน้ำอยู่ข้างโถชักโครกที่ห้องพักโรงแรมในเมืองโอลองกาโป ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมะนิลา หลังจากเข้าพักพร้อมกับชายเชื้อสายคอเคเชียนเมื่อค่ำวันเสาร์ นักเคลื่อนไหว เรียกร้องให้จำคุกนาวิกโยธินอเมริกัน ในฟิลิปปินส์ เพราะหากปล่อยให้สหรัฐควบคุมตัวก็จะหลุดรอดจากระบบยุติธรรมของฟิลิปปินส์อีกครั้ง ตำรวจ อ้างผู้เห็นเหตุการณ์ว่า เห็นชายต่างชาติหลบหนีจากที่เกิดเหตุเป็นนาวิกโยธินที่รู้จักผู้เสียชีวิตในบาร์แห่งหนึ่ง ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจก่อเหตุสังหารด้วยความโมโหที่ทราบเมื่อถึงห้องพักว่านายเลาเดเป็นสาวประเภทสอง หรืออาจทะเลาะกันด้วยสาเหตุอื่น ด้านโฆษกนาวิกโนธินสหรัฐแถลงว่า นาวิกโยธินรายนี้ถูกควบคุมตัวอยู่บนเรือรบสหรัฐที่ท่าเรืออ่าวซูบิกระหว่างที่กองทัพเรือสหรัฐและตำรวจฟิลิปปินส์กำลังร่วมสอบสวนคดีฆาตกรรมดังกล่าว

+++นายอัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า  เรือรบสหรัฐจะยังจอดอยู่ที่ฟิลิปปินส์ต่อไประหว่างรอผลการสอบสวน แม้ว่าเสร็จสิ้นการซ้อมรบร่วม 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันศุกร์และมีกำหนดกลับในสัปดาห์นี้

+++ทางการอังกฤษจับผู้ต้องหา 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน ถูกจับกุมได้ที่เมืองฟาร์นโบโรจ์และเมืองพอร์ตสมัท มณฑลแฮมป์เชอร์ ทางใต้ของอังกฤษ และเมืองกรีนนิช ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ชาย 2 คน วัย 23 ปี และ 26 ปี และสตรี 2 คน วัย 23 ปี และ 29 ปี ถูกตั้งข้อหาสั่งการ เตรียมการ และยุยงให้เกิดการก่อการร้าย ส่วนชายวัย 57 ปี และสตรีวัย 48 ปี ถูกตั้งข้อหาไม่แจ้งทางการเรื่องการก่อการร้าย ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงขณะนี้ ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาก่อการร้ายที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามในซีเรียแล้ว 103 คน ในจำนวนนี้ถูกตั้งข้อหาแล้ว 24 คน และถูกตัดสินแล้วว่ามีความผิดจริง 5 คน รัฐบาลอังกฤษประมาณว่า มีชาวอังกฤษกำลังร่วมรบกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรักประมาณ 500 คน

+++สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ว่าสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) เผยภาพถ่ายชุดล่าสุดของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ขณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างและพัฒนาที่อยู่อาศัย "ไวซอง" สำหรับนักวิทยาศาสตร์ในโครงการดาวเทียมของรัฐ และยังเดินทางต่อไปเยี่ยมชมสถาบันพลังงานธรรมชาติและวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งรัฐ ซึ่งเพิ่งก่อสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ด้วยทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ คือการที่นายคิม จอง-อึน ปรากฏตัวพร้อมถือไม้เท้าสีดำเอาไว้ในมือข้างซ้ายตลอดเวลาเพื่อช่วยในการทรงตัว

+++ขณะที่หนังสือพิมพ์ โนดอง ชินมุน สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง ตีพิมพ์ภาพผู้นำสูงสุดของประเทศบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับวันอังคาร แต่เป็นภาพถ่ายที่เห็นเพียงท่อนบนเท่านั้นแม้รายงานของเคซีเอ็นเอจะไม่ได้ระบุวันที่และเวลาของเหตุการณ์ในภาพชุดล่าสุดของนายคิม จอง-อึน อย่างชัดเจน และไม่เผยข้อมูลอย่างชัดเจน ว่าเพราะเหตุใดท่านผู้นำต้องใช้ไม้เท้าช่วยในการทรงตัว

+++นักวิเคราะห์เชื่อ เป็นความต้องการยุติกระแสข่าวลือจากโลกภายนอก เกี่ยวกับอาการป่วยของผู้นำหนุ่มแห่งเกาหลีเหนือ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อกันว่ามีอายุราว 30-31 ปี และบทวิเคราะห์ต่างๆนานาเกี่ยวกับความพยายามล้มล้างอำนาจตระกูลคิม นายคิม จอง-อึน ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. เป็นการเดินทางไปร่วมชมคอนเสิร์ตกับภรรยา คือนางรี ซอล-จู แล้วหายหน้าไปนับจากนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเกาหลีเหนือยืนยันมาโดยตลอด ว่าสุขภาพของท่านผู้นำยังแข็งแรงดี

+++การเดินทางเยือนรัสเซียของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เป็นระยะเวลา3วัน มีขึ้นขณะที่รัฐบาลรัสเซียกำลังเกิดความขัดแย้งอย่างหนักกับกลุ่มประเทศตะวันตกเกี่ยวกับปัญหายูเครน และต้องการระดมความร่วมมือกับเอเชียและลาตินอเมริกา ทั้งนี้ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวชื่นชมนายหลี่ว่า จีนกับรัสเซียถือเป็นพันธมิตรทางธรรมชาติ และเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแนบแน่นต่อกัน และทั้งสองประเทศกำลังทำการใหญ่ซึ่งมีเป้าหมายแห่งความจริง เพื่อนำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งสองประเทศการเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรีจีนครั้งนี้ได้มีการลงนามในข้อตกลงหลายสิบฉบับ ตั้งแต่เรื่องพลังงาน การธนาคาร อุตสาหกรรมไฮเทค ไปจนถึงเรื่องรถยนต์ ทั้งนี้สองประเทศได้ตกลงเปิดใช้สกุลเงินหยวนและรูเบิล มูลค่า 24,500ล้านดอลลาร์สหรัฐ(7 แสน 35,000ล้านบาท)เป็นสื่อกลางการซื้อขายระหว่างกัน เพื่อลดการพึ่งพิงเงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐ  แม้จะมีเสียงวิจารณ์ต่างๆนานาว่า การที่ประธานาธิบดีปูติน ลงนามในข้อตกลงดังกล่าวเพราะต้องการตอบโต้ชาติตะวันตก ขณะที่จีนกลับได้ผลประโยชน์จากข้อตกลงดังกล่าวมากกว่าฝ่ายรัสเซีย

+++นอกจากนี้นายหลี่กับประธานาธิบดีปูติน ยังหารือกันเรื่องเสือโคร่งไซบีเรียซื่อคุซยา เป็นหนี่งในเสือโคร่งไซบีเรีย3ตัวที่ได้รับการปล่อยคืนสู่ป่ารัสเซีย แต่พลัดหลงเข้าไปในประเทศจีน โดยทางการจีนวิตกว่ามันอาจจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าผิดกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศจีนให้คำมั่นว่าจะปกป้องเสือตัวดังกล่าวตามข้อตกลงว่าด้วยการปกป้องเสือโคร่งไซบีเรียข้ามพรมแดน

+++นักรบชาวเคิร์ด ซึ่งต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส เปิดเผยว่า ยึดเนินเขาที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางตะวันตกของเมืองโคบานีพรมแดนซีเรียที่ติดกับตุรกี คืนจากกลุ่มไอเอสแล้ว หลังจากได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพต่างชาติที่นำโดยสหรัฐ

+++ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ จะจัดการเจรจากับผู้บัญชาการกองทัพ มากกว่า20 ประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางจัดการกับกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก เป็นการประชุมในกรุงวอชิงตันเป็นครั้งแรก

+++เกิดเหตุมือระเบิดพลีชีพ ขับรถบรรทุกระเบิดพุ่งชนจุดตรวจความมั่นคงอิรัก ในย่านคาซิมิยาห์ทางทิศเหนือของกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ศพ รวมถึง นาย อาเหม็ด อัล-คาห์ฟาจี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในสังกัดกลุ่มการเมืองของชาวนิกายชีอะห์ ซึ่งไม่ได้เป็นเป้าหมายการโจมตี แต่ขับรถยนต์ผ่านที่เกิดเหตุพอดี ผู้เสียชีวิตยังรวมถึงตำรวจประจำด่านตรวจอย่างน้อย 6 นายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 52 คน

+++ทางการเม็กซิโก ส่งตำรวจปราบจลาจลเข้าเมืองชิลปันซิงโก เมืองเอกของรัฐเกร์เรโร หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงโจมตีอาคารรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อระบายความโกรธแค้นกรณีนักศึกษา43คนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อวันที่26 ก.ย.โดยผู้ประท้วงหลายร้อยคนจุดไฟเผาบางส่วนของสำนักงานใหญ่รัฐเกร์เรโรและเรียกร้องให้นายอังเกล อาเกร์เร ผู้ว่าการรัฐ ลาออกจากตำแหน่ง ผู้ประท้วง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอในการค้นหาตัวนักศึกษาที่หายตัวไปหลังจากปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองอิกัวลารัฐเกร์เรโร นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจับกุมตัวนักศึกษาไปมอบให้แก๊งค้ายาเสพติดในท้องถิ่น ทั้งนี้ นักศึกษาหายตัวไปหลังจากปะทะกันดุเดือดกับตำรวจซึ่งมีผู้เสียชีวิต 6คน และผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เห็นนักศึกษาถูกตำรวจนำตัวขึ้นรถตู้ออกไป ด้านอัยการของรัฐได้จับกุมตัวเจ้าหน้าที่26 คนในข้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุปะทะเมื่อวันที่26ก.ย.พร้อมกับสมาชิกแก๊งยาเสพติด4 คนและประชาชนไม่ทราบชื่ออีก4 คน

+++หญิงสาวชาวเช็กอายุ 26ปี คนหนึ่งก่อเหตุสะเทือนขวัญใช้มีดเป็นอาวุธไล่แทงเด็กนักเรียนภายในโรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองซาดาร์ นาด ซาซาวัว ในภูมิภาคออสตราวา ห่างจากกรุงปราก ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว120กม. เป็นเหตุให้นักเรียนชายอายุ16ปีถูกแทงเสียชีวิต ด้านน.ส.จานา ครูติโลวา โฆษกหญิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช็ก แถลงว่า นักเรียนชายที่ตกเป็นเหยื่อเสียชีวิตแม้ได้รับการช่วยชีวิตจากหน่วยกู้ภัย และตำรวจได้จับกุมหญิงคนดังกล่าว ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัด จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ผู้ต้องหาได้เข้าจู่โจมเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งภายในโรงเรียน และสังหารนักเรียนวัยรุ่นชายระหว่างที่เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงคนแรก จากนั้นเธอได้ปล่อยตัวนักเรียนหญิงคนแรกให้แพทย์ช่วยชีวิต ระหว่างที่ยังจับเด็กนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่งเป็นตัวประกันไว้อยู่ หลังจากนั้นตำรวจนายหนึ่งได้ใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าช๊อตหญิงที่ก่อเหตุ ขณะที่เธอได้ทำร้ายตำรวจบาดเจ็บเช่นกัน ก่อนจะเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ทั้งนี้ พบว่าเด็กนักเรียนหญิง1รายได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องได้รับการผ่าตัด ขณะที่นักเรียนหญิงอีก1คนและตำรวจ1นาย บาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเด็กนักเรียนหญิงอีก1รายเกิดอาการช็อก

+++ราคาน้ำมัน  ร่วงลงกว่าร้อยละ 4 หลังทบวงพลังงานโลก ปรับลดคาดการณ์การเติบโต ตามหลังภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในเอเชียและยุโรป สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 3.90 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 4.5 ปิดที่ 81.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 3.85 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 4.3 ปิดที่ 85.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2010

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดผสมผสาน หลังได้แรงพยุงจากรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ ที่ช่วยกลบกระแสความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ดาวโจนส์ ลดลง 19.57 จุด ปิดที่ 16,301.50 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.86 จุด  ปิดที่ 1,875.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 13.51 จุด  ปิดที่ 4,227.17 จุด 

+++ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ผลักให้ราคาทองคำวันอังคาร ปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,234.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์