*มติครม.ไม่ชดเชยเกษตรกรปลูกข้าวนาปรัง/ICTคุมสื่อโซเซี่ยล*

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ร.อ. นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณรัฐมนตรี และข้าราชการ  ทุกกระทรวงที่ตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ ทั้งในด้านนโยบาย และการปฎิบัติงานให้มีความชัดเจนเพื่อที่ทำให้ประเทศสามารถเดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ     และขอให้ทุกกระทรวงติดตามสถานการณ์อากาศ และน้ำอย่างใกล้ชิด  ถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีปริมาณฝนตกมาก แต่หากเทียบกับปริมาณน้ำในเขื่อน ในช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว  ก็ยังถือว่าน้ำมีปริมาณที่น้อย และขอให้ทุกพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ให้มาก  ทำให้ ที่ประชุมครม.วันนี้ มีมติงดส่งน้ำในช่วงฤดูทำนาปรัง ไปยังพื้นที่ลุ่มของแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่กลอง รวม 26 จังหวัด ในพื้นที่กว่า 7.7ล้านไร่ 260,000 ครัวเรือน โดยจะไม่มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวในฤดูนาปรัง โดยจะมีผลตั้งแต่ 1พ.ย.2557 ถึง 30เม.ย.2558

นอกจากนั้น ที่ประชุม มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)  เน้นการดูแลสื่อโซเชียลมีเดียให้มาก แต่จะไม่ไปละเมิดสิทธิของประชาชน   และส่วนเรื่องการอ้างแหล่งข่าวในสื่อโซเชียลมีเดีย และสื่อทั่วไป นั้น จะต้องมีแนวทางที่ชัดเจนเพื้อไม่ให้เกิดผลกระทบกับในด้านความมั่นคง ขณะที่การปรับโครงสร้าง ภายในกระทรวงใดๆ รัฐมนตรีจะต้องชี้แจงรายละเอียดที่ชัดเจนต่อที่ประชุม ครม.   ส่วนแต่ละกระทรวงได้ส่งแผนการดำเนินงานปฎิบัติงานด้านนโยบายมาให้แก่รัฐบาลนั้น ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้ส่งกลับไปแก้ไข และให้แต่ละกระทรวงเสนอเข้ามาใหม่ในอาทิตย์หน้า เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียด

นอกจากนั้น ที่ประชุมครม.มีมติให้ เปลี่ยนแปลงงบประมาณปี2557ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างศูนย์อุตสากรรมร่วม ที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา มูลค่า194ล้านบาท และนำงบไปกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แทน ที่ประชุมครม. ผ่านร่างกฎหมายห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และประกาศให้เป็นสินค้าต้องห้าม นอกจากนั้น ยังเห็นชอบการแก้ไขกฎหมายในหลายฉบับ ได้แก่ พรบ.พิจารณาความแพ่งและอาญา , ร่างพรบ.การบังคับโทษปรับและรอลงอาญา ,พรบ.ผู้ใช้และผู้ถูกใช้ และพรบ.การโอนคดีผู้บริโภค  ที่ประชุมครม.เห็นชอบการยกเว้นภาษีการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ การยกเว้นภาษีเงินได้ทางเศรษฐกิจและรายจ่ายภายในประเทศ นับตั้งแต่วันประกาศใช้จนถึงวันที่31ธันวาคม2558