ควันดำจากรถถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุทำให้เกิดมลพิษและฝุ่นละออง ช่วงบ่ายวันนี้ พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ถนนวิภาวดีฝั่งขาออก ก่อนถึงสะพานกลับรถฐานทัพอากาศ เพื่อตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถยนต์ที่วิ่งผ่าน โดยพลตำรวจตรีจิรสันต์ กล่าวว่า บริเวณนี้ถือเป็นอีกจุดที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน จึงมีการตั้งจุดตรวจดังกล่าวขึ้น พื้นที่ไหนมีมลพิษมากก็สั่งการให้ตั้งจุดตรวจ โดยเน้นรถเก่าและรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล หากตรวจพบว่ารถคันใดมีควันดำเกินมาตรฐาน ร้อยละ 50 ก็จะเปรียบเทียบปรับ1,000บาท และให้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยภายใน30วัน หากไม่ดำเนินการจะเพิ่มโทษปรับและพิจารณาห้ามนำออกมาวิ่ง
จากการลงพื้นที่เจ้าหน้าที่สุ่มตรวจรถ พบรถที่มีควันดำ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือตรวจ พบว่า เกินค่ามากถึงร้อยละ93 จากเดิมที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ50 เท่านั้น ส่วนรถประจำทางที่หลายคนบอกว่าควันดำนั้นจะต้องเข้าไปตรวจที่อู่จอดรถ ไม่สามารถเรียกตรวจได้ทุกคัน เพราะจะทำให้จราจรติดขัดได้ รวมถึง หากเป็นรถประจำทางไม่ปรับอากาศ ก็จะกระทบต่อผู้โดยสารได้ โดยตำรวจที่อยู่ประจำจุดตรวจ จะใส่หน้าอนามัยทุกนาย โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่ ใช้เครื่องมือวัดควัน จะต้องใช้หน้ากากที่มีประสิทธิภาพมาก
สำหรับมาตรการลดมลพิษและฝุ่นละออง กองบังคับการตำรวจจราจร ออก3 มาตรการ คือ ควบคุมรถ ควบคุมสัญญาณไฟ ในช่วงเวลาเร่งด่วน ช่วงเช้าและช่วงเย็น เพื่อไม่ให้รถติดขัดในพื้นที่แออัด เช่น โรงเรียน ตลาด , บังคับใช้กฎหมายตามข้อบังคับว่าด้วยการห้ามรถบรรทุกเดินรถในเขตกรุงเทพฯอย่างเคร่งครัด ทั้งรถบรรทุก 6 ล้อห้ามเดินรถระหว่าง 6:00 น.ถึง 9:00น. และ 16.00 น. ถึง 20.00น. รถบรรทุกสิบล้อห้ามเดินรถระหว่าง 6:00 น. ถึง 10:00 น.และเวลา 15.00 น ถึง 21:00 น.แล้ว วันนี้จะตั้งด่านตรวจควันดำเพิ่มเป็น 20 จุดจาก 12 จุดทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล , การเร่งคืนพื้นผิวการจราจรให้ทุกสถานีตำรวจ สำรวจพื้นที่ก่อสร้างและขอความร่วมมือผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการให้คืนพื้นผิวจราจรทุกจุดที่ไม่มีความจำเป็น