ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันที่ 18 มกราคม 2562

18 มกราคม 2562, 05:14น.


+++สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า มีแนวโน้มสูงว่า การประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อาจจะมีขึ้นในเมืองดานัง เวียดนามในเดือนมี.ค.หรือเม.ย.นี้ แหล่งข่าว คาดว่า นายทรัมป์จะแถลงเรื่องสถานที่และวันเวลาประชุมกับนายคิม จองอึน ในวันนี้ หลังการประชุมกับนายคิม ยองโชล เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเกาหลีเหนือ



+++เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เหตุระเบิดและเพลิงไหม้อาคารคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยลียงทางตะวันออกตอนกลางของฝรั่งเศส ที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน ภาพที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาและเปลวเพลิงเหนืออาคารมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยลียง แถลงว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งระหว่างงานซ่อมปรับปรุงอาคาร และเมืองวิลเลอร์บานน์ แถลงว่า เป็นอุบัติเหตุ แต่ไม่ให้รายละเอียดใดๆ นอกจากนั้น ทั้งมหาวิทยาลัยลียงและเมืองวิลเลอร์บานน์ ต่างแถลงยืนยันว่า ไม่มีสารเคมี รั่วไหล



+++ย้อนไปเมื่อวันเสาร์ที่ 12 ม.ค.เกิดเหตุแก๊สระเบิดร้านจำหน่ายเบเกอรี่ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพและบาดเจ็บอีกหลายสิบคน



+++ส่วนที่โคลัมเบีย นายเอนริเก้ เปนาโลซา นายกเทศมนตรีเมืองโบโกตา เมืองหลวงของโคลัมเบีย เปิดเผยว่า เกิดเหตุคนร้าย วางระเบิดซุกซ่อนในรถยนต์ โจมตีโรงเรียนตำรวจเจเนอรัล ซานตาแดร์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงโบโกตา กระทรวงกลาโหมโคลัมเบีย แถลงว่า มีผู้เสียชีวิต 8 ศพและบาดเจ็บ 10 คน แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นตำรวจหรือพลเรือน



+++ประธานาธิบดีอิวาน ดูเก้ แห่งโคลัมเบีย กล่าวผ่านทวีตเตอร์ว่า เขาจะเดินทางกลับกรุงโบโกตาในทันที แม้จะมีภารกิจร่วมประชุมด้านความมั่นคงในพื้นที่ทางตะวันตก และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เร่งสอบสวน หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ตามกระบวนการยุติธรรม เพราะชาวโคลัมเบียทุกคน ไม่เห็นด้วยกับลัทธิก่อการร้ายและผนึกกำลังกันต่อต้านเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบ



+++โคลัมเบีย เผชิญสงครามกลางเมืองในประเทศมานานหลายสิบปี แต่ความรุนแรงก็ยุติลงได้ด้วยการลงนามในข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกองกำลังติดอาวุธปฏิวัติโคลอมเบีย(ฟาร์ก)เมื่อปี 2559



+++เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเคนยา จับผู้ต้องสงสัย 9 คน เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีโรงแรมดุสิตดีทู ในเครือกลุ่มธุรกิจดุสิตธานีของไทย ในกรุงไนโรบี เมื่อวันอังคาร ภายหลังกลุ่มคนร้าย 5 คนบุกโจมตีโรงแรมดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 ศพ บาดเจ็บ 28 คน ก่อนที่มือปืนทั้ง 5 คนจะถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเคนยาสังหารหลังการยิงปะทะนานกว่า 19 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างไล่ล่าติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ ที่เชื่อว่ามีส่วนในการวางแผนหรือสนับสนุนการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งกลุ่มติดอาวุธมุสลิมอัลชาบับ อ้างว่าอยู่เบื้องหลังเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่รับรองกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอล



+++แผนการขอถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู)  ของสหราชอาณาจักร หรือการทำเบร็กซิต  นายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ จะนำเสนอญัตติและแถลงต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลจะดำเนินการขั้นตอนต่อไปอย่างไรในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค. และ ในวันที่ 29 ม.ค. รัฐสภาอังกฤษ จะเปิดอภิปรายเกี่ยวกับแผนบีของนายกรัฐมนตรีเมย์ ในเรื่องเบร็กซิต อีกครั้ง นางเมย์ เรียกร้องให้ผู้นำทางการเมือง วางผลประโยชน์ส่วนตัวไว้ก่อน เพื่อหาทางทำให้สหราชอาณาจักรก้าวไปข้างหน้าได้ ในขณะที่หนทางยังคงมืดมน นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ปฏิเสธที่จะเจรจากับนางเมย์ จนกว่าจะยืนยันว่าจะไม่มีเบร็กซิตแบบไม่มีข้อตกลงอย่างเด็ดขาด



+++บีบีซี รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯว่า รายงานฉบับใหม่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เรื่องการพิจารณาทบทวนระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถตรวจจับและดักทำลายขีปนาวุธที่ฝ่ายข้าศึก อาจจะยิงเข้ามาโจมตีสหรัฐฯได้ทันที รายงานนี้ เสนอแนะด้วยว่า สหรัฐฯ ควรจะปรับปรุงพัฒนาโครงการต้านขีปนาวุธ เพื่อให้สามารถป้องกันภัยคุกคามจากต่างชาติ เช่น รัสเซีย ประเทศจีน และ เกาหลีเหนือ 



+++รัสเซีย ประสบความสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาวุธไฮเทคความเร็วเหนือเสียง ประเทศจีน อยู่ระหว่างการพัฒนาหัวรบขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความซับซ้อนและมีความเร็วเหนือเสียงเช่นกัน



+++สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ระบุว่า สำนักพระราชวังบัคกิ้งแฮม แถลงว่า เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินเบอระ พระชนมายุ 97 พรรษา พระสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประสบอุบัติเหตุรถชน เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี ใกล้กับพระตำหนักซานดริงแฮม ทางตะวันออกของแคว้นอังกฤษ ทรงปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจท้องที่เข้ามาดูแลเรื่องอุบัติเหตุแล้ว



+++สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เจ้าชายฟิลิป ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเรนจ์โรเวอร์ด้วยพระองค์เองขณะเกิดเหตุชนกับรถยนต์อีกคัน ทำให้รถยนต์ของพระองค์พลิกตะแคงด้านข้าง แต่พระองค์สามารถออกมาจากรถยนต์พระที่นั่งได้



CR:BBC,CNN



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X